IM สื่ออุตสาหกรรม เป็นสื่อสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรม มุ่งเน้นนำเสนอข่าวสารด้านบวก ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ธุรกิจ ด้วยเจตนารมณ์ที่ต้องการสร้างพื้นที่ให้กลุ่ม SMEs ได้มีที่ยืน ได้มีโอกาสได้ใช้ช่องทางเคียงคู่ไปกับผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อให้อุตสาหกรรมไทยได้เติบโตไปพร้อมๆ กัน อย่างยั่งยืน
บริษัท สื่ออุตสาหกรรม จำกัด | 02 11 585 22 | an6n@yahoo.com
ระยะทาง 350 กิโลเมตร สิ้นสุดที่คลังน้ำมัน อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น เบื้องต้นประเมินงบประมาณลงทุนรวม 9,200 ล้านบาท โดยมีผลตอบแทนโครงการ IRR ประมาณ 12.12% และคาดว่าใช้ระยะก่อสร้างแล้วเสร็จกลางปี 2564
นายภาณุ ศีติสาร ประธานกรรมการ บริษัท เพาเวอร์ โซลูชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ PSTC เปิดเผยว่าโครงการท่อขนส่งน้ำมันส่วนขยายภาคตะวันออกเฉียงเหนือนี้ ดำเนินการภายใต้บริษัท ไทย ไปป์ไลน์ เน็ตเวิร์ค จำกัด หรือ TPN ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท บิ๊กแก๊ส เทคโนโลยี จำกัด หรือ BIGGAS ซึ่ง PSTC ถือหุ้นอยู่ทั้งสิ้น 51% เพื่อรองรับการจัดส่งน้ำมัน ไปยังพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนและตอนกลาง และเป็นเส้นทางเชื่อมสู่ประเทศลาว คิดเป็นปริมาณน้ำมันที่ขนส่งทางท่อประมาณ 3,500 ล้านลิตรต่อปี
โดยเมื่อโครงการนี้ก่อสร้างแล้วเสร็จ ประเมินว่าจะสามารถสร้างรายได้ให้กับบริษัทปีละกว่า 1,500 ล้านบาท โดยมีอัตรากำไรที่ค่อนข้างสูง และผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องและมั่นคง
(เส้นทางก่อสร้างท่อน้ำมัน ส่วนขยายภาคอิสาน โดยเชื่อมต่อท่อปัจจุบัน ที่ อ.หนองแซง จ.สระบุรี สิ้นสุดที่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น)
ปัจจุบันโครงการดังกล่าวอยู่ระหว่างการยื่นขออนุมัติผลการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมหรือ EIA กับทางสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติ (สผ.) โดยคาดว่าเมื่อได้รับการอนุมัติเห็นชอบ EIA แล้ว จะสามารถเริ่มก่อสร้างได้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ทันที ซึ่งในขณะนี้ บริษัทฯมีความพร้อมด้านเงินทุน โดยปัจจุบัน มีพันธมิตรรายใหญ่กว่า 2-3 ราย ให้ความสนใจเข้าร่วมลงทุนในโครงการดังกล่าว ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจา โดยคาดว่าจะจบภายในสิ้นปีนี้ ทั้งนี้ บริษัทฯ มีนโยบายที่จะยังคงสัดส่วนผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ TPN ไว้
(แสดงเส้นทางแนวท่อที่ผ่านในเขต จ.นครราชสีมา)
ในด้านความพร้อมของส่วนของผู้ถือหุ้นใน TPN นั้น นายภาณุกล่าวว่า เนื่องจากโครงการท่อน้ำมันดังกล่าวเป็นโครงการขนาดใหญ่ บริษัทฯ ได้คุยกับสถาบันการเงินที่สนใจปล่อยเงินกู้อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันได้เจรจาเรื่องสัดส่วนเงินทุนและเงินกู้กับธนาคารเรียบร้อยแล้ว โดยในส่วนของเงินทุนที่ธนาคารกำหนดบริษัทฯ มีความพร้อมและได้วางแผนเพื่อจัดเตรียมไว้อย่างชัดเจน ทั้งนี้ จากการที่มีพันธมิตรรายใหญ่และกองทุนต่างประเทศกว่า 2-3 ราย ให้ความสนใจเข้าร่วมลงทุนในโครงการ ซึ่งบริษัทฯ จะขายหุ้นเดิมและหุ้นเพิ่มทุนของ TPN จำนวนหนึ่งออกไปนั้น จะทำให้บริษัทได้เงินมาเพียงพอในส่วนของทุน มากไปกว่านั้นจากงบไตรมาส 3 บริษัทมีหนี้สินต่อทุนเพียง 0.68 เท่า ทำให้บริษัทยังมีเครื่องมือทางการเงินในการจัดหาเงินทุนมารองรับในการลงทุนโครงการนี้ได้อีกหลายทางและไม่กระทบต่อสัดส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัท จึงขอให้มั่นใจว่าบริษัทไม่มีแผนเพิ่มทุนอื่นใดเพิ่มเติมอย่างแน่นอน
(เส้นทางแนวท่อส่งน้ำมัน จากต้นทางโรงกลั่นมาบตาพุด โรงกลั่นไทยออยส์ ในปัจจุบัน รวมถึงส่วนต่อขยายไปภาคเหนือ)
นายภาณุยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของ BIGGAS ซึ่งบริษัท PSTC ได้เข้ามาถือหุ้น 51% เมื่อปลายปีที่แล้ว คาดว่าปี 2561 จะมียอดขายเติบโตก้าวกระโดดจากปีก่อนหน้า กว่า 100% รวมถึงอัตราผลกำไรที่สูงขึ้นอย่างชัดเจนทั้งจากผลการดำเนินธุรกิจและกำไรจากการขายหุ้น TPN ส่วนหนึ่งออกไป และบริษัทฯได้วางเป้าเติบโตต่อเนื่องในปี 2562 ประมาณ 20-25% บริษัทเชื่อมั่นว่า หากโครงการก่อสร้างท่อน้ำมันของ TPN แล้วเสร็จในกลางปี 2564 จะสร้างรายได้ที่สม่ำเสมอและมีเสถียรภาพให้กับกลุ่มบริษัทต่อไปในระยะยาว