IM สื่ออุตสาหกรรม เป็นสื่อสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรม มุ่งเน้นนำเสนอข่าวสารด้านบวก ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ธุรกิจ ด้วยเจตนารมณ์ที่ต้องการสร้างพื้นที่ให้กลุ่ม SMEs ได้มีที่ยืน ได้มีโอกาสได้ใช้ช่องทางเคียงคู่ไปกับผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อให้อุตสาหกรรมไทยได้เติบโตไปพร้อมๆ กัน อย่างยั่งยืน
บริษัท สื่ออุตสาหกรรม จำกัด | 02 11 585 22 | an6n@yahoo.com
ฟีเจอร์อัจฉริยะที่ทำให้คุณไม่พลาดข้อมูลสำคัญที่สุด อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานถึง 7 วัน รวมทั้งระบบเซ็นเซอร์และเทคโนโลยีอัลกอริทึมในอุปกรณ์แทรคเกอร์ที่ก้าวล้ำที่สุดของฟิตบิทอุปกรณ์ซีรีส์ Charge เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ยอดฮิตที่สุดของฟิตบิท ด้วยยอดจำหน่าย 35 ล้านชิ้นจนถึงปัจจุบัน
โดย IDC ประเมินว่ายอดการส่งออกจำหน่ายทั่วโลก จะเป็นสัดส่วนรายได้สำคัญเมื่อเทียบกับทุกกลุ่มต่อเนื่องไปอีกหลายปีข้างหน้า
ดีไซน์สุดหรู รังสรรค์อย่างชาญฉลาด
ฟิตบิท ชาร์จ 3 ผลิตจากวัสดุน้ำหนักเบาพิเศษ ใช้กรอบอลูมิเนียมเกรดเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมอวกาศ และใช้กระจก Corning Gorilla Glass 3 ที่มีรูปทรงเพรียว ให้แสงเงาที่ทันสมัย ทนทานขึ้น และสวมใส่สบายรับข้อมือ
เหมาะกับทั้งผู้ชายและผู้หญิง หน้าจอระบบสัมผัสที่คมชัด ใหญ่กว่าเดิมเกือบ 40% และสว่างกว่ารุ่นเดิม ให้ประสบการณ์ที่ไวต่อสัมผัส และเข้าถึงข้อมูลสำคัญได้อย่างง่ายดาย
Fitbit Charge 3 เป็นแวร์เอเบิลรุ่นแรกที่มีปุ่มแบบเหนี่ยวนำ (inductive button) เสริมพลังด้วยเทคโนโลยีใหม่สิทธิบัตรของฟิตบิท สามารถเพิ่มพื้นที่ในอุปกรณ์ให้สอดรับกับดีไซน์กันน้ำอันทันสมัย เสริมเซ็นเซอร์ได้มากขึ้น พร้อมแบตเตอรี่ที่ใช้ได้นานถึง 7 วัน สามารถใช้งานได้สะดวกในขณะว่ายน้ำ พร้อมด้วยสมรรถนะเยี่ยมตามความคาดหวังจากฟิตเนสแทรคเกอร์สุดล้ำ
เพื่อให้สอดรับกับการยกระดับฮาร์ดแวร์ จึงได้มีการออกแบบประสบการณ์แบบอินเทอร์แอคทีฟในซอฟต์แวร์ใหม่ด้วยเช่นกัน เพื่อการมีส่วนร่วมอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้นและจูงใจให้ผู้ใช้ทำเป้าหมายในแต่ละวันได้สำเร็จ
หน้าจอสัมผัสความละเอียดสูงจะแสดงกราฟิกเกรย์สเกลที่มีลูกเล่นอนิเมชั่นสนุก ๆ และกราฟิกบ่งบอกความรู้สึกต่างๆ ทั้งความเซอร์ไพรส์ ความสุข สร้างช่วงเวลาสนุกๆ ให้คุณฉลองความสำเร็จตามขั้น และมุ่งมั่นทำเป้าหมายต่อไปให้สำเร็จ
ประสบการณ์ด้านสุขภาพและฟิตเนสที่เหนือกว่า
นอกเหนือจากงานดีไซน์หรูระดับพรีเมียมแล้ว ฟิตบิท ชาร์จ 3 ยังนำเสนอฟีเจอร์ด้านสุขภาพและฟิตเนส ที่ล้ำสมัยที่สุดในบรรดาแทรคเกอร์ของฟิตบิทในปัจจุบัน อัดแน่นด้วยข้อมูลการติดตามอัตราการเต้นของหัวใจกว่า 9 ล้านล้านนาที
ฟิตบิทได้พัฒนาเทคโนโลยีติดตามการเต้นของหัวใจ PurePulse ที่ทำงานตลอดเวลา 24/7 และวัดการเต้นของหัวใจระหว่างออกกำลังได้แม่นยำขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่น ชาร์จ 2 รวมทั้งวัดระดับ การเผาผลาญแคลลอรีและชีพจรขณะพักได้ดีขึ้น
ช่วยให้ออกกำลังกายได้อย่างเหมาะสมและรู้แนวโน้มสุขภาพของตนเอง การเพิ่มเซ็นเซอร์ SpO2 เข้ามาในแทรคเกอร์ของฟิตบิทเป็นครั้งแรก เพิ่มขีดสามารถการประเมินระดับออกซิเจนในเลือดสัมพัทธ์ และติดตามปัจจัยบ่งชี้ด้านสุขภาพอย่างภาวะหยุดหายใจขณะหลับได้
ฟีเจอร์สุขภาพและฟิตเนสที่เสริมเข้ามา ได้แก่
- โหมดการออกกำลังกายแบบอิงเป้าหมาย เลือกโหมดออกกำลังได้มากกว่า 15 ประเภท เช่น ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ วิ่ง ยกน้ำหนักและโยคะ สามารถตั้งเป้าการเผาผลาญแคลอรี ดูสถิติ แบบเรียลไทม์ การพัฒนาและฉลองความสำเร็จได้จากตัวอุปกรณ์ เมื่อคุณบรรลุเป้าหมายที่วางไว้
- กันน้ำลึกถึง 50 เมตร สามารถใส่ได้ขณะอาบน้ำ ตากฝน ว่ายน้ำในสระหรือทะเล เช็คระยะเวลา แบบเรียลไทม์บนข้อมือได้ด้วยโหมดว่ายน้ำ (Swim Mode) หรือใช้ SmartTrack ดูรอบและความเร็วหลังจากว่ายน้ำได้ด้วยแอปฯ ฟิตบิต
- วิ่งได้ไกลขึ้น สร้างแรงใจต่อเนื่องด้วย GPS ที่เชื่อมต่อจากโทรศัพท์เพื่อดูความเร็วและระยะทางได้จากอุปกรณ์ โดยฟังก์ชั่น Run Detect จะพักชั่วคราว (auto pause) และสิ้นสุดการทำงานโดยอัตโนมัติ
- การติดตามสุขภาพของผู้หญิง เข้าใจวงจรการมีรอบเดือนอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้นด้วยการใช้แอปฯ ฟิตบิท ในการบันทึกการมีรอบเดือนและระยะไข่ตก บันทึกอาการและเปรียบเทียบวงจรรอบเดือนที่ผ่านมา
- ดูข้อมูลได้ง่าย ๆ ดูข้อมูลส่วนต่าง ๆ จากแดชบอร์ดได้โดยง่าย และเป็นแดชบอร์ดแบบใหม่ที่ปรับได้ตามต้องการ สามารถดูสถิติกิจกรรมรายวันและสุขภาพด้านต่าง ๆ เช่น การติดตามสุขภาพของผู้หญิง ภาวะน้ำในร่างกาย การนอนและน้ำหนัก
- ข้อมูลเชิงลึกส่วนตัว รู้จักตัวเองเพื่อปรับปรุงสุขภาพให้ดีขึ้น โดยการใช้ข้อมูลเชิงลึกที่ปรับเปลี่ยนไปพร้อมกับการทำกิจกรรมของคุณ อัตราการเต้นของหัวใจ ข้อมูลโภชนาการ และการนอนหลับ เพื่อช่วยให้คุณทำตามเป้าได้สำเร็จ โดยได้รับแรงเสริมทางบวก และเคล็ดลับที่จำเป็น
- แรงจูงใจทางสังคม เชื่อมต่อกับหนึ่งในเครือข่ายสังคมด้านสุขภาพและฟิตเนสที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่มีผู้ใช้งานจริงมากกว่า 25 ล้านราย เพื่อเสริมสร้างแรงใจให้บรรลุเป้าหมายเมื่อคุณได้มีส่วนร่วม กับเพื่อนฝูง ครอบครัวและคนอื่น ๆ ผ่านฟีดกิจกรรมและข่าวสาร การเข้ากลุ่ม และการแข่งทำกิจกรรมกันในแอปฯ ฟิตบิท
- คำแนะนำและแรงจูงใจในทุกเมื่อ บรรลุเป้าหมายกิจกรรมประจำวันอย่างต่อเนื่องและเห็นภาพรวมสุขภาพได้ทั้งหมดด้วยฟีเจอร์ต่าง ๆ เช่น การรู้จำการออกกำลังอัตโนมัติ การแจ้งเตือนให้ขยับร่างกาย (Reminders to Move) คำแนะนำการหายใจเพื่อผ่อนคลาย ติดตามการนอนหลับและระยะต่าง ๆ (Sleep Stages) รวมถึงข้อมูลการนอนเชิงลึก (Sleep Insights) และอีกมากมาย
ความสามารถอันล้ำหน้าในการติดตามและวิเคราะห์การนอน
ฟิตบิทช่วยให้ผู้ใช้นับล้านรายเข้าใจแบบแผนการนอนหลับของตน รวมทั้งแนวการใช้ชีวิตที่อาจส่งผลต่อ การนอน ฟิตบิทเริ่มติดตามการนอนมาตั้งแต่ปี 2552 และได้พัฒนาฐานข้อมูลการนอนหลับที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา
ด้วยข้อมูลที่ติดตามมากว่า 7.5 พันล้านคืน นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชั่น Sleep Stages & Sleep Insights ที่อ้างอิงจากข้อมูลความแปรปรวนของอัตราการเต้นของหัวใจ ซึ่งจะช่วยให้คุณเข้าใจคุณภาพการนอนหลับของตนเองได้อย่างลึกซึ้ง
ฟิตบิทยังคงเดินหน้าพัฒนาเกี่ยวกับการนอน และได้เปิดตัวฟังก์ชั่น Sleep Score Beta ผลงานจาก Fitbit Labs ซึ่งผู้ใช้ฟิตบิทจะสามารถใช้ได้ภายในปีนี้ โดยเป็นการใช้ข้อมูลปัจจัยหลัก ๆ ที่ติดตามด้วยอุปกรณ์ฟิตบิท พร้อมการติดตามอัตราการเต้นของหัวใจ PurePulse ตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้เกิดเป็นคะแนนการนอน Sleep Score ของแต่ละคืน ช่วยให้คุณเห็นภาพรวมของคุณภาพการนอน และเห็นได้ว่ามีปัจจัยใดส่งผลกระทบ
นอกจากนี้ อุปกรณ์ที่มีเซ็นเซอร์ SpO2 ที่มีอยู่ในรุ่น ชาร์จ 3, ไอออนิค และ เวอร์ซ่า จะมีการทดสอบการเตือนผู้ใช้เมื่อมีอาการหายใจติดขัด ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงปัญหาสุขภาพ เช่น ภูมิแพ้ หึดหอบ หรือภาวะหยุดหายใจระหว่างนอน
ฟิตบิทยังเดินหน้ารวบรวมข้อมูลทางคลินิกต่อไปเพื่อทดสอบและพัฒนาระบบเกี่ยวกับสภาวะด้านสุขภาพต่าง ๆ ให้ได้ในระดับเดียวกับระบบของคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐฯ เช่นข้อมูลเกี่ยวกับ การหยุดหายใจขณะนอนหลับ และภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ
โดย Fitbi นั้น เป็น 1 ใน 9 บริษัทที่เข้าร่วมโครงการนำร่องของคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐฯ ในการรับรองก่อนนำซอฟต์แวร์ดิจิทัลด้านสุขภาพไปใช้ ซึ่งโครงการนี้ออกแบบมาเพื่อปรับปรุงกระบวนการอนุมัตินำซอฟต์แวร์ไปใช้เสมือนอุปกรณ์ทางการแพทย์ ชนิดหนึ่ง
ไม่พลาดการเชื่อมต่อกับหลากหลายฟีเจอร์อัจฉริยะ
Fitbit Charge 3 คือ สายรัดข้อมือแทรคเกอร์ที่ฉลาดที่สุดของฟิตบิทที่มาพร้อมกับฟังก์ชั่นอัจฉริยะ ช่วยให้เชื่อมต่อกับข้อมูลสำคัญที่สุดได้ตลอดเวลา โดยไม่ทำให้ชีวิตคุณถูกเทคโนโลยีรบกวนมากเกินไป หรือไปรบกวนคุณด้วยสิ่งที่ไม่ต้องการหรือไม่จำเป็น อาทิ
- การแจ้งเตือนเพิ่มเติมและการตอบกลับเร็ว ปรับการตั้งค่าและดูสายเรียกเข้าได้ตามใจชอบ ดูปฏิทิน ข้อความและการแจ้งเตือนจากแอปฯ ต่าง ๆ เช่น Facebook และ Uber รวมทั้งตอบรับหรือปฏิเสธสายเรียกเข้า และตอบรับการติดต่อระหว่างเดินทางด้วยข้อความตอบกลับเร็วที่มีในระบบไว้แล้วสำหรับผู้ใช้แอนดรอยด์ ซึ่งสามารถปรับแต่งได้
- แอปฯ ที่จำเป็นต้องใช้ ใช้แต่ละวันได้คุ้มค่าด้วยแอปฯ ยอดฮิตที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้การใช้ชีวิต อย่างนาฬิกาปลุก นาฬิกาจับเวลา ข้อมูลสภาพอากาศ รวมทั้ง Fitbit Leaderboard และปฏิทินที่จะเข้ามาเสริมเมื่อมีการอัปเดตโปรแกรม
- แอปฯ ยอดฮิตของแบรนด์ต่าง ๆ แอปฯ ยอดนิยมจากแบรนด์ต่าง ๆ ที่คัดสรรมา จะมีเพิ่มในตัวอุปกรณ์ในอนาคต เหมือนกับที่มีในรุ่น ไอออนิค และ เวอร์ซ่า
- การชำระเงินที่ง่ายและปลอดภัย เก็บกระเป๋าสตางค์ไว้ที่บ้านและใช้อุปกรณ์ ฟิตบิท ชาร์จ 3 ชำระเงินอย่างง่ายดายและปลอดภัยผ่าน Fitbit Pay ช่องทางชำระเงินแบบไร้สัมผัส ที่มีสถาบันการเงินกว่า100 แห่งใน 18 ประเทศรองรับ
- ใช้งานได้หลากหลายระบบ สามารถใช้งานกับอุปกรณ์ระบบแอนดรอยด์และ iOS รวมทั้งวินโดว์สในเร็ว ๆ นี้ คุณจึงเลือกใช้แวร์เอเบิลที่ต้องการได้โดยไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงเรื่องโทรศัพท์
อุปกรณ์เสริม ราคา และการวางจำหน่าย
ปรับแต่งอุปกรณ์ Fitbit Charge 3 ของคุณได้ด้วยสายรัดข้อมือดีไซน์ใหม่ที่ใช้งานง่ายกว่าที่เคย พร้อมตัวเลือกอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ที่ทำจากวัสดุพรีเมียมเช่นสายรัดผิวสัมผัสหลายเหลี่ยมคลาสสิกที่กันเปื้อนได้
สายรัดแนวสปอร์ตทำจากซิลิโคนที่มีรูระบายอากาศ สายถักแนวแฟชั่นและสายหนัง Horween งานฝีมือพรีเมียม และยังมี Fitbit Charge 3 รุ่น Special Edition ที่มาพร้อมสายซิลิโคนขาว พร้อมกรอบอลูมิเนียมกราไฟต์ หรือสายถักสีลาเวนเดอร์ พร้อมกรอบโลหะสีชมพูโรสโกลด์ และแต่งเป็นสองลุคในหนึ่งเดียวด้วยสายคลาสสิกสีดำที่มาในกล่อง
Fitbit Charge 3 จะวางจำหน่ายในราคา 6,490 บาท สำหรับสีดำพร้อมกรอบอลูมีเนียมกราไฟต์ หรือสีฟ้าเทาพร้อมกรอบอลูมิเนียมสีชมพูโรสโกลด์ สำหรับอุปกรณ์เสริมมีราคาระหว่าง 890-1,490 บาท ส่วน Fitbit Charge 3 รุ่น Special Edition จะวางจำหน่ายในราคา 6,990 บาท โดยในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2561