IM สื่ออุตสาหกรรม เป็นสื่อสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรม มุ่งเน้นนำเสนอข่าวสารด้านบวก ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ธุรกิจ ด้วยเจตนารมณ์ที่ต้องการสร้างพื้นที่ให้กลุ่ม SMEs ได้มีที่ยืน ได้มีโอกาสได้ใช้ช่องทางเคียงคู่ไปกับผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อให้อุตสาหกรรมไทยได้เติบโตไปพร้อมๆ กัน อย่างยั่งยืน
บริษัท สื่ออุตสาหกรรม จำกัด | 02 11 585 22 | an6n@yahoo.com
S&J เป็นอีกหนึ่งผู้นำของโลกธุรกิจ OEM-ODM ผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงามในประเทศไทย ที่มีลูกค้ากว่า 500 บริษัทชั้นนำจากประเทศทั่วโลกให้ความไว้วางใจในศักยภาพของ "บริษัท เอส แอนด์ เจ อินเตอร์เนชั่นแนล เอนเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน)" ในการผลิตและส่งมอบผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม มากกว่า 1,000 แบรนด์ ด้วยนวัตกรรมสุดล้ำสมัย สร้างคุณค่าตรงใจผู้บริโภค โดยบริษัทฯ จะให้คำปรึกษาและบริการแบบครบวงจร มุ่งเน้นการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคเป็นหลัก ด้วยค่านิยมขององค์กร "ความหลงใหล ความจริงใจ ความยืดหยุ่น ความเป็นเลิศ" ในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม โดยเริ่มตั้งแต่ศึกษาความต้องการผู้บริโภค ค้นคว้าและวิจัยพัฒนาสินค้าที่สร้างความแตกต่างและความได้เปรียบทางการแข่งขันด้วยนวัตกรรม และกระบวนการผลิตที่ทันสมัย ได้รับการรับรองระบบมาตรฐานต่างๆ ในระดับสากล เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ
โดย S&J เป็นบริษัทในเครือสหพัฒน์ เริ่มต้นธุรกิจในปี 2523 ภายใต้ชื่อ บริษัท เอส แอนด์ เจ อาหารสําเร็จรูป จํากัด โดยเป็นบริษัทผลิตอาหารสําเร็จรูป ของเครือสหพัฒน์ ก่อนที่จะเปลี่ยนมาทำธุรกิจรับจ้างผลิตเครื่องสําอาง และเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท เอส แอนด์ เจ อินเตอร์เนชั่นแนล เอนเตอร์ไพรส์ จํากัด ในปี 2526 และได้จดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในปี 2531 ปัจจุบันมีมูลค่าบริษัท ราว 7,500 ล้านบาท
- ปี 2563 รายได้ 4,415 ล้านบาท กำไร 276 ล้านบาท
- ปี 2564 รายได้ 5,033 ล้านบาท กำไร 373 ล้านบาท
- ปี 2565 รายได้ 6,077 ล้านบาท กำไร 504 ล้านบาท
- ปี 2566 รายได้ 6,951 ล้านบาท กำไร 717 ล้านบาท
- ไตรมาส 1/2567 รายได้ 1,410 ล้านบาท กำไร 127 ล้านบาท
"ในปี 2566 เศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย มีการปรับตัวเติบโตขึ้น แม้จะไม่ได้เป็นไปอย่างที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากมีปัจจัยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ การดำเนินโนบายทางการเงินของประเทศมหาอำนาจ ได้สร้างความผันผวนให้กับเศรษฐกิจโลก รวมถึงส่งผลต่อค่าเงินบาทและราคาพลังงานและอัตราเงินเฟ้อให้ปรับตัวสูงขึ้นด้วยเช่นกัน กระนั้น บริษัท เอสแอนด์เจ อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็นเตอร์ไพร์ส จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย ยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และเติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเป็นผลมาจากการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของกลุ่มบริษัท ที่สามารถปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว และตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าทั้งในและต่างประเทศได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ รวมทั้งการบริหารจัดการเรื่องห่วงโซ่การผลิต และการควบคุมต้นทุนการผลิตให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน"
บริษัทมีความมุ่งมุ่นและทุ่มเทอย่างเต็มที่ ทำให้บริษัทฯ ก้าวข้ามอุปสรรคต่างๆ เพื่อรักษาการเติบโตของธุรกิจให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ส่งผลให้ภาพรวมในการดำเนินธุรกิจของบริษัท และบริษัทย่อยเติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ มีรายได้จากยอดขาย 6,804 ล้านบาท ซึ่งเติบโตจากปีก่อนคิดเป็นร้อยละ 14 และร้อยละ 41 ตามลำดับ
ทั้งนี้การบริหารธุรกิจที่ประสบความสำเร็จได้ตามวิสัยทัศน์ของบริษัทได้ยึดถึอแนวทางพัฒนาองค์กร อย่างยั่งยืน โดยไม่ได้มุ่งหวังผลกำไรแต่เพียงอย่างเดียว โดยด้านสิ่งแวดล้อม บริษัทฯได้ทำกิจกรรมเพื่อลดการใช้พลังงานและลดก๊าซเรือนกระจกอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ขับเคลื่อนไปถึงเป้าหมาย Carbon Net Zero ในปี 2593
และด้านสังคม บริษัทฯได้บริหารทรัพยากรบุคคลอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียม รวมถึงมีการปฎิบัติตามนโยบายสิทธิมนุษยชน ส่วนด้านบรรษัทภิบาท บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต โปร่งใส และตรวจสอบได้ภายใต้หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี มีมาตรการในการต่อต้านการคอร์รับชั่น รวมถึงการปฎิบัติต่อผู้ถือหุ้นอย่างเท่าเทียม
นอกจากนี้เพื่อส่งเสริมให้ธุรกิจมีการเติบโตอย่างยั่งยืน บริษัทฯได้ดำเนินโครงการต่างๆ ที่แสดงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม มาอย่างต่อเนื่องกว่า 15 ปี โดยในปี 2566 ที่ผ่านมา บริษัทได้รับการยกย่องเป็น 1 ใน 25 บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่ทำคะแนนสูงสุดของทั้ง 4 เกณฑ์ ซึ่งรวบรวามโดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย เกณฑ์ SET ESG Rating และเกณฑฺ SET Award โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และเกณฑ์ AGM Checklist โดยสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย ซึ่งรางวัลของการขับเคลื่อนเป็นอีกก้าวแห่งความสำเร็จที่เน้นย้ำถึงความสำคัญของการขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตได้อย่างมั่นคคงและยั่งยืน
"จึงกล่าวได้ว่าในปีที่ผ่านมา บริษัทฯสามารถบรรลุเป้าหมาย และมีความก้าวหน้าในมิติที่สำคัญในเชิงกลยุทธ์ ไม่ว่าจะเป็นด้านการเติบโต (Growth) การสร้างผลกำไร (Profitability) และการสร้างความยั่งยืน (Sustainability) ซึ่งล้วนแต่เสิรมสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วนในระยะยาว" นายบุญเกียรติ โชควัฒนา กล่าว
ด้าน นางทองสุข อุปถัมภากุล กรรมการบริษัท ฝ่ายธุรกิจ บริษัท เอส แอนด์ เจ อินเตอร์เนชั่นแนล เอนเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แนวทางการดำเนินธุรกิจโดยรวมของบริษัทว่า เป็นบริษัทที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของงการสร้างข้อได้เปรียบเชิงการแข่งขันทางธุรกิจให้กับลูกค้า เราจึงให้ความสำคัญในเรื่องของการออกแบบผลิตภัณฑ์ด้วยนวัตกรรม จาก R&D ที่มีความรู้ ความชำนาญ มากประสบการณ์ อีกทั้งบริษัทฯ เรายังมีทีมงานที่เรียกว่า Customer Relationship ที่คอยดูแลใส่ใจ ให้บริการ ให้คำแนะนำในการทำการตลาดอย่างใกล้ชิดกับลูกค้า ไม่ใช่เพียงแต่เป็นผู้ผลิตอย่างเดียว
"ด้วยเพราะทาง เอส แอนด์ เจ มองว่า สิ่งที่สำคัญในโลกของการทำธุรกิจเครื่องสำอาง ไม่เพียงเฉพาะในการเป็นผู้ผลิตเท่านั้น การที่ได้ทราบความต้องการของผู้บริโภค เข้าใจตลาด ก็จะยิ่งทำให้ทางบริษัทสามารถออกแบบผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคได้ และการที่ลูกค้ามีการเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ถือเป็นความภาคภูมิใจของทาง เอส แอนด์ เจ ที่สามารถให้คำแนะนำ การแก้ไขปัญหาต่าง ๆ โดยลูกค้าสามารถมั่นใจในการเลือกสินค้า ให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคและตลาด สิ่งเหล่านี้ที่บริษัททำให้กับลูกค้า จะทำให้ธุรกิจของบริษัทเติบโตอย่างยั่งยืนมากกว่า"
โดยกลุ่มลูกค้าของ บริษัท เอส แอนด์ เจ อินเตอร์เนชั่นแนล เอนเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) นั้นมีหลากหลายกลุ่ม ทั้ง Offline และ Online รวมไปถึงผู้ประกอบรายใหม่ๆ ในโลกออนไลน์ ก็มีเข้ามาในช่วงสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงจากการเกิดการระบาดของ ไวรัสโควิด-19 เมื่อ 5 ปีก่อน ซึ่งการเติบโตในส่วนของลูกค้าออนไลน์ เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ปัจจุบันเองก็มีกลุ่มลูกค้าจาก TikTok เพิ่มเข้ามาอีกด้วย ทำให้ เอส แอนด์ เจ ได้โอกาสผลิตสินค้าในการตอบโจทย์ให้กับลูกค้ากลุ่มนั้น ๆ โดยการเริ่มต้นทำธุรกิจอาจจะไม่จำเป็นต้องมีเงินลงทุนมากนัก เพียงหลักแสนก็สามารถผลิตสินค้าอย่าง ลิปสติก หรือ แป้ง ได้แล้ว
ด้าน Innovation ก็เป็นเรื่องที่สำคัญ ต้องมีความโดดเด่นและแตกต่างจากบริษัทอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อที่แปลกแตกต่าง สารสกัดที่เราสกัดเอง สร้างมูลค่าเพิ่มจากการช่วยเหลือชุมชนและเกษตรกร เป็นต้น สำหรับเทรนด์สินค้าก็เป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องเข้าใจ เช่น Trend สินค้า Color Cosmetics ของทาง เอส แอนด์ เจ ก็จะผสมผสานความเป็นสกินแคร์เข้าไปในกระบวนการผลิตด้วย โดยสารพวกนี้จะเข้าไปบำรุง และจะช่วยทำให้สีของคัลเลอร์ติดทนได้นานยิ่งขึ้น สีสันชัดเจนเป็นธรรมชาติ ในด้าน Skin Care ของ เอส แอนด์ เจ เรามองว่าการที่ประเทศไทยเริ่มเป็นสังคมผู้สูงอายุมากขึ้น ทำให้ผลิตภัณฑ์ด้านการชะลอริ้วรอย ที่มีสารสกัดต่าง ๆ จากธรรมชาติที่มีประสิทธิภาพในการที่จะปกป้องผิว และช่วยเรื่องลดริ้วรอยกลายเป็นที่นิยมมากขึ้น รวมถึงสินค้า SUN Product ของทาง เอส แอนด์ เจ ทุกตัวของเรา ก็เป็นสูตรไม่เหนียวเหนอะหนะ ปกป้องผิวจากแสงแดด UVA, UVB, Blue Light และมีสารที่ไม่ก่อให้เกิดการทำลายปะการัง อีกทั้งแม้สินค้าเนเชอรัลโปรดักส์จะมีต้นทุนราคาที่สูงขึ้นกว่าสินค้าปกติ แต่บริษัทก็พยายามที่จะพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบโจทย์ด้านสิ่งแวดล้อมและความต้องการของกลุ่มลูกค้าให้มากที่สุด โดยบริษัทได้มุ่งมั่นทำตลาดด้านนี้มาไม่ต่ำกว่า 5 ปีแล้ว
นอกจาก Personal Product สินค้าจำพวก Skin Care, Face, Body, Lotion, Roll on, Hygienic ที่ทาง เอส แอนด์ เจ มีหลากหลายและครอบคลุม แต่ประมาณหนึ่งปีที่ผ่านมา ทางบริษัทได้เพิ่มประเภทสินค้าใหม่ ในหมวด Pet Care หรือ ผลิตภัณฑ์เพื่อสัตว์เลี้ยงด้วย เนื่องจากทางบริษัทเล็งเห็นเทรนด์ใหม่ คนในยุคปัจจุบันและเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ ทำให้คนวางแผนการใช้ชีวิตไม่คิดที่จะมีลูก พร้อมเลี้ยงดูสุนัขและแมวแทน ทางบริษัทจึงมีสินค้าแชมพู-คอนดิชันเนอร์ เพื่อที่จะใช้ดูแลสุนัขและแมวของกลุ่มลูกค้า ซึ่งทุกๆ ผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ ทาง เอส แอนด์ เจ มองว่า ทุกตัวมีความสำคัญ และทำให้บริษัทสามารถยืนหยัดมาได้จนถึงทุกวันนี้ และยังต้องเติบโตไปพร้อม ๆ กันต่อไป
S&J พัฒนาองค์กรอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้วางระบบ SAP S/4HANA, Private Cloud Version Netizen Peony โดยเนทติเซนท์ (NETIZEN) เพื่อยกระดับระบบการทำงาน รองรับยอดขายการเติบโตขององค์กร
โดย S&J ได้เติบโตและพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านมาตรฐานตลาดทุนหรือการพัฒนาด้านบริหารจัดการรวมถึงสิ่งแวดล้อม โดยในปี 2566 ที่ผ่านมา บริษัทได้รับรางวัลเชิดชูและรับรองมากมาย ดังนี้
- รางวัล SET Awards 2023 ประเภท High Commended Sustainability Excellence Awards 2023 จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
- รางวัล Thailand Sustainability Investment 2023 หรือหุ้นยั่งยืน และ SET ESG Rating ระดับ AA ในปี 2566 จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
- รางวัล อย.ควอลิตี้ อวอร์ด ปี 2566 จากสำนักคะณกรรมการอาหารและยา
- ใบรับรองมาตรฐาน CGMP (Current Good Manufacturing Practice)/21CFR part 210,211 ในการผลิตสินค้าประเภท OTC (Over The Counter) ส่งขายไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา
- ใบรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์องค์กร (Carbon Footprint of Organization : CFO) จากองค์การบริหารก๊าซเรือนกระจกมหาชน
- ใบรับรองอุตสาหกรรมสีเขียวระดับที่ 4 วัฒนธรรมสีเขียว (Green Culture) จากกระทรวงอุตสาหกรรม
"ทั้งนี้ เพื่อรักษาขีดความสามารถในการแข่งขันด้วยการพัฒนาไปพร้อมกับโลกที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ บริษัทมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจไปด้วยความซื่อสัตย์ โปร่งใส ภายใต้หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี ควบคู่กับการมีส่วนร่วมในการพัฒนา สังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม เพื่อร่วมผลักดันให้ทุกภาคส่วนเติบโตไปด้วยกันอย่างมั่นคงและยั่งยืน" นายบุญเกียรติ โชควัฒนา กล่าวทิ้งท้าย