ชูจุดเด่นเทคโนโลยีการแสดงผลแบบเลเยอร์ ระหว่างหน้าจอ LCD ระบบ FSTN และ OLED สามารถยืดระยะการใช้งานแบตเตอรี่ได้สูงสุดถึง30 วัน และมาพร้อมกับระบบ NFC Payment สามารถชำระเงินได้ง่ายๆ ผ่าน TicWatch
Mobvoi บริษัทปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence) ชั้นนำที่อยู่ภายใต้การสนับสนุนของ Google และVolkswagen ได้ร่วมกันเปิดตัวนาฬิกาสมาร์ทวอชรุ่นใหม่ล่าสุด พร้อมกันทั่วโลก “TicWatch Pro” สมาร์ทวอชระบบ Wear OS โดยGoogle™ ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีการแสดงผลแบบเลเยอร์ (Layered Display technology) สร้างมาตรฐานสมาร์ทวอชที่มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนานที่สุด เริ่มวางจำหน่ายในประเทศไทย กันยายน 2561 นี้ โดย บริษัท อินโนเวชั่นอีทีซี จำกัด
นาย ฉีเฟย ลี่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง Mobvoi เปิดเผยว่าเทคโนโลยีการแสดงผลแบบเลเยอร์ (Layered Display technology) เป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของ TicWatch Pro ที่จะช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ให้สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 30 วันต่อการชาร์ตไฟเพียงครั้งเดียว โดยเทคโนโลยีการแสดงผลแบบเลเยอร์นี้ เป็นสุดยอดนวัตกรรมที่ทำให้ผู้ใช้สามารถสลับการทำงานของหน้าจอไปมาระหว่างหน้าจอ LCD ระบบFSTN (Film Compensated Super Twisted Nematic) และหน้าจอ OLED ที่ซ้อนทับกันอยู่ โดยหน้าจอ FSTN ที่อยู่ด้านบนจะเป็นหน้าจอ LCD โปร่งแสงที่ใช้พลังงานน้อย สามารถมองเห็นได้ชัดเจนในที่แสงจ้าหรือกลางแจ้ง และไม่รบกวนการแสดงผลทั้งความสว่าง และสีของหน้าจอ OLED ด้านล่างเมื่อเปิดใช้งาน
TicWatch Pro เป็นผลจากความพยายามของเราในการสร้างสรรค์สมาร์ทวอชระดับพรีเมียมเพื่อตอบโจทย์ปัญหาอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ที่เป็นปัญหากวนใจใหญ่ที่สุดของการใช้งานสมาร์ทวอชมาอย่างยาวนาน โดยเราตั้งเป้าว่า TicWatch Pro จะเป็นเรือธงของเราในการบรรลุเป้าหมายที่จะทำให้ผู้ใช้ทั่วโลกสามารถเข้าถึงอุปกรณ์ล้ำสมัยต่างๆ ได้ในราคาที่จับต้องได้
นายธรรมสร มีรัตน์ กรรมการบริหาร บริษัท อินโนเวชั่นอีทีซี จำกัด ผู้จัดจำหน่าย TicWatch สมาร์ทวอชระบบ Wear OS ในประเทศไทยเปิดเผยว่า ปัจจุบัน TicWatch SE กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศไทย ยอดจำหน่าย Ticwatch ในประเทศไทยมีอัตราการเติบโตสูงเกือบ 50% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า (MoM) เนื่องจาก Ticwatch เป็นสมาร์ทวอชที่มีฟังก์ชั่นการใช้งานครอบคลุมทุกความต้องการในราคาที่จับต้องได้ ตอบโจทย์ในเรื่องการใช้งานเมื่อเทียบกับราคา และยังรองรับภาษาไทยได้อย่างสมบูรณ์แบบ นอกจากนี้ทาง อินโนเวชั่นอีทีซี ยังสร้างความมั่นใจให้ผู้ใช้ด้วยการรับประกันสินค้าในระยะเวลา 1 ปี และสามารถเปลี่ยนเครื่องใหม่ได้ทันทีภายใน 7 วัน หากเครื่องมีปัญหา
อย่างไรก็ตามคาดว่าการมาของ TicWatch Pro จะสามารถขยายกลุ่มผู้ใช้ได้มากยิ่งขึ้น และสามารถตอบโจทย์สำคัญของตลาดสมาร์ทวอชในปัจจุบันได้ในเรื่องการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานขึ้น โดยไม่ต้องชาร์จบ่อยๆ และยังสามารถรองรับการใช้งานระบบ NFC Payment ที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน
สำหรับ “TicWatch Pro” จะวางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายน พ.ศ. 2561
นี้ ที่ร้าน B2S
สาขาเซ็นทรัลพระราม 3,
เซ็นทรัลลาดพร้าว,
ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต,
B2S
พัทยา, B2S
ชลบุรี ร้าน Betrend
สาขาเอ็มโพเรียม และสยามพารากอน หรือสามารถสั่งซื้อทางออนไลน์ได้ที่ Lazada, Shopee, facebook fanpage: Ticwatch Thailand
และ www.ticwatchthailand.com ในราคาตั้งแต่ 9,200 – 9,500
บาทสำหรับอุปกรณ์เสริมและ Accessories
ต่างๆ จะจำหน่ายอย่างเป็นทางการในช่วงเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2561
นี้
เกี่ยวกับ TicWatch Pro
TicWatch Pro มีจุดเด่นที่สามารถปรับเปลี่ยน และเลือกโหมดการใช้งานหน้าจอให้เหมาะสมกับการใช้งานได้เอง ซึ่งทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมการใช้งานแบตเตอรี่ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย “Smart Mode” เป็นการเปิดใช้งานหน้าจอ OLED ที่ใช้ระบบ Wear OS โดย Google™แบตเตอรี่จะสามารถใช้งานได้นาน 2 วัน “Essential Mode” เปิดใช้งานหน้าจอระบบ FSTN แบตเตอรี่จะสามารถใช้งานได้นานสูงสุด 30 วัน และเมื่อใช้งาน Smart Mode จนแบตเตอรี่อ่อน Essential Mode จะเปิดใช้งานเองโดยอัตโนมัติเพื่อให้สามารถใช้งานต่อเนื่องได้อีกอย่างน้อย 3 วัน
ใน Essential Mode จะแสดงผลวันที่ เวลา จำนวนก้าว และอัตราการเต้นของหัวใจ โดยในการใช้งานในโหมดนี้ ระบบเซ็นเซอร์ต่างๆ ยังคงทำงานตามปกติ ทำให้สามารถเก็บข้อมูลสุขภาพและการออกกำลังต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นระยะทางการเดิน จำนวนแคลอรี่ ความเร็วในการเดิน ฯลฯ และจะถูกเชื่อมต่อและถ่ายโอนทันทีเมื่อเปิดใช้งานใน Smart Mode ที่ผู้ใช้จะได้สัมผัสประสบการณ์การใช้งานสมาร์ทวอชภายใต้ระบบ Wear OS โดยGoogle™อย่างสมบูรณ์แบบบนจอ OLED
นอกจากคุณสมบัติข้างต้นแล้ว TicWatch Pro ยังมีคุณสมบัติอื่นอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น
- สามารถดาวน์โหลดโดยตรง และใช้งานแอพลิเคชั่นต่างๆ บน Google Play™ Storeได้
- สามารถสั่งงานโดยตรงด้วยเสียงผ่าน Google Assistant™ ได้ทั้งการติดตามสภาพอากาศ สั่งเริ่มการจับระยะการวิ่ง การตั้งเตือนต่างๆเป็นต้น
- ใช้ Google Pay ชำระเงินได้โดยตรง ผ่านระบบ NFC Payment
- ตัวเรือนผลิตจากวัสดุระดับพรีเมียม กรอบหน้าปัดและขอบข้างตัวเรือนทำจากสแตนเลสสตีล ส่วนที่เหลือของตัวเรือนทำจากโพลิอาไมด์ (polyamide)เสริมแกร่งด้วยไฟเบอร์กลาส (50GF)สายทำจากซิลิโคนที่ไม่เป็นอันตรายกับผิวหนังหุ้มด้วยหนังแท้เกรดพรีเมียมจากอิตาลี
- มีฟีเจอร์กันน้ำและฝุ่นมาตรฐาน IP68 (IP68 Water and dust resistant) โดยสามารถอยู่ในน้ำลึกได้ถึง 1.5 เมตรเป็นระยะเวลาสูงสุด30 นาที (ไม่แนะนำให้ใส่ว่ายน้ำ)
- เซ็นเซอร์ตรวจจับด้านสุขภาพและการออกกำลัง ไม่ว่าจะเป็นการตรวจจับอัตราการเต้นของหัวใจ การเคลื่อนไหว การหมุน ทิศทางการเคลื่อนที่ ความเร็วการตรวจจับแสงล้อมรอบ การตรวจจับการสวมใส่ได้อย่างรวดเร็ว
- นอกเหนือจาก แอพลิเคชั่นพิเศษของ Mobvoi ที่ลงมาพร้อมในเครื่อง ยังสามารถใช้งานแอพลิเคชั่นเกี่ยวกับสุขภาพต่างๆ ที่อยู่บนGoogle Play™ได้
- มีหน้าปัดนาฬิกาให้เลือกนับพันแบบ โดยสามารถเลือกดาวน์โหลดเพิ่มเติมได้จาก Google Play™
- ฟังเพลงผ่านการสตรีมมิ่งจากแอพลิเคชั่นต่างๆ ได้
Mobvoi แตกต่างอย่างมีสไตล์ด้วยฝีมือของนักออกแบบมือรางวัล ผสมผสานการนำนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์มาใช้ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ โดยผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม TicWatch เป็นสมาร์ทวอชในระบบ Wear OS โดย Google™ ที่อยู่ในกลุ่มยอดจำหน่ายสูงสุดบน Amazon.com และ TicWatch Pro กำลังจะมาสร้างสถิติใหม่ และสร้างมาตรฐานใหม่ในการเป็นสมาร์ทวอชที่มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนานที่สุด อีกด้วย
ข้อมูลทางเทคนิค TicWatch Pro:
ระบบปฏิบัติการ
|
Wear OS by Google
|
ขนาด
|
45mm x 12.6mm
|
หน้าจอ
|
1.39” OLED 400 x 400 + FSTN display
|
ระบบประมวลผล
|
Qualcomm® Snapdragon Wear™ 2100
|
หน่วยความจำ
|
RAM: 512MB / Storage: 4GB
|
GPS
|
GPS / AGPS
|
NFC Payments
|
Google Pay
|
การเชื่อมต่อ
|
Bluetooth: 4.2 / Wi-Fi: 802.11bgn 2.4GHz
|
เซ็นเซอร์
|
Accelerometer, Gyro, Magnetic Sensor, PPG Heart Rate sensor,Ambient Light Sensor, Low Latency Off-Body Sensor
|
แบตเตอรี่
|
415mAh
|
การใช้งานแบตเตอรี่
|
Smart Mode (Wear OS): 2 days;
Essential Mode: 30 days
|
กันน้ำ
|
IP68 (up to 1.5 meters for up to 30 mins; swimming not recommended
|
*Google, Wear OS by Google, Google Assistant, Android Wear, Wear OS, Google Pay และ Google Play เป็นเครื่องหมายการค้าของGoogle Inc Wear OS โดย Google สามารถทำงานได้กับสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 4.4 ขึ้นไป (ยกเว้นรุ่น Go edition) หรือ iOS 9.3ขึ้นไปโดยคุณสมบัติต่างๆ อาจแตกต่างกันในแต่ละประเทศ และแต่บละแพลตฟอร์ม
เกี่ยวกับ Mobvoi
Mobvoi เป็นบริษัทพัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์ที่มีเทคโนโลยีหลักของตัวเองหลายรายการ อาทิ การจดจำเสียง ความเข้าใจภาษา การค้นหาด้วยเสียง ฯลฯ โดยบริษัทมีกลุ่มผลิตภัณฑ์มากมาย อาทิ กลุ่มนาฬิกาอัจฉริยะ (Smart Watch) ภายใต้แบรนด์ TicWatch กลุ่มลำโพงอัจฉริยะ (Smart Speaker) TicHome Mini และกลุ่มหูฟังไร้สายอัจฉริยะ (Wireless earbuds) TicPods Free
จากสตาร์ทอัพที่เริ่มต้นธุรกิจในปักกิ่ง ประเทศจีน Mobvoi ได้มีผู้เข้าร่วมสนับสนุนทางการเงินแล้ว 6 ครั้ง ได้แก่ Sequoia, Zhenfund, SIG, Google และ กลุ่ม Volkswagen โดยในปี พ.ศ.2558 Mobvoi ได้เข้าเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ Android Wear™ (ปัจจุบันคือ Wear OS by Google)และ Volkswagen ในปี พ.ศ. 2560 โดยบริษัทได้อุทิศตนให้กับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถโต้ตอบกับมนุษย์ได้ในอีกระดับหนึ่ง โดยได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ปัญญาประดิษฐ์ที่บูรณาการทั้งฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ต่างๆ