IM สื่ออุตสาหกรรม เป็นสื่อสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรม มุ่งเน้นนำเสนอข่าวสารด้านบวก ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ธุรกิจ ด้วยเจตนารมณ์ที่ต้องการสร้างพื้นที่ให้กลุ่ม SMEs ได้มีที่ยืน ได้มีโอกาสได้ใช้ช่องทางเคียงคู่ไปกับผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อให้อุตสาหกรรมไทยได้เติบโตไปพร้อมๆ กัน อย่างยั่งยืน
บริษัท สื่ออุตสาหกรรม จำกัด | 02 11 585 22 | an6n@yahoo.com
เฉลิมชัย พรศิริปิยกุล ผู้จัดการสาขาห้างบิ๊กซีในโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม กล่าวว่า บิ๊กซีได้เข้ามาลงทุนและเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 23 มี.ค. 2551 โดยบิ๊กซีได้พยายามสร้างจุดขายที่ต่างจากห้างค้าปลีกอื่นๆ ที่มีอยู่ในโฮจิมินห์ และมีนโยบายที่จะประหยัดการใช้พลังงานด้วยการลงทุนสร้างแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาลานจอดรถ โดยยอดขายของบิ๊กซีเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดปี 2560 มียอดขายเฉลี่ยอยู่ที่ 6 แสนล้านด่อง/สาขา
ทั้งนี้ มีการแบ่งโซนสินค้า เพื่อให้ง่ายต่อการจับจ่ายใช้สอยและเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคชาวเวียดนาม และมีการแบ่งสัดส่วนรายได้ของห้างสรรพสินค้าในแต่ละแผนกสินค้าไว้อย่างชัดเจน
ขณะเดียวกันบิ๊กซีเวียดนามกำลังนำร่องขยายแผนกโฮมมาร์ทเพิ่มเติม โดยจะนำร่องเปิดในบางสาขาก่อนเป็นระยะเวลา 3 เดือน เพื่อทดสอบการตอบรับของตลาดว่ามีมากน้อยแค่ไหน ก่อนจะขยายต่อไปยังสาขาอื่นๆ ทั่วประเทศ
ปัจจุบันสินค้าในโฮมมาร์ท 70-75% เป็นสินค้าที่นำเข้าจากจีน ที่เหลืออีก 15% เป็นสินค้าที่ผลิตในเวียดนาม และมีแผนที่จะเพิ่มสัดส่วนสินค้าเวียดนามให้มากขึ้น เพื่อดึงดูดลูกค้าชาวเวียดนามให้เข้ามาหาซื้อสินค้าในห้างของบิ๊กซีมากขึ้น
“กำลังพยายามปรับโมเดลของห้างบิ๊กซีให้เป็นไลฟ์สไตล์มอลล์มากขึ้น และพยายามปรับรูปแบบการวางชั้นสินค้าให้ลูกค้ามองเห็นสินค้าได้ง่ายขึ้น ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้ยอดขายของบิ๊กซีในเวียดนามเพิ่มสูงขึ้น” เฉลิมชัย กล่าว
เฉลิมชัย กล่าวว่า จากสถิติที่ผ่านมาพบว่า จำนวนลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในห้างบิ๊กซีมีเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ จะมีหมุนเวียนเข้ามามากถึง 1 หมื่นคน/วัน มียอดขายเฉลี่ยวันละ 3-4 ล้านบาท ส่วนวันธรรมดาจะมียอดขายเฉลี่ยอยู่ที่วันละ 2 ล้านบาท
แม้ว่ามูลค่ายอดขายจะไม่สูงเท่ากับในประเทศไทย เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคชาวเวียดนามส่วนใหญ่ใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะในการเดินทาง จึงทำให้การซื้อสินค้าในแต่ละครั้งจะไม่มาก เฉลี่ยอยู่ที่คนละ 400 บาท/ตะกร้า
“ธุรกิจค้าปลีกในเวียดนามที่ผ่านมามีการเติบโตในระดับ 2 หลักมาตลอด ซึ่งถือว่าเป็นการเติบโตที่สูง แต่การแข่งขันในธุรกิจค้าปลีกเวียดนามก็สูงเช่นกัน มีห้างค้าปลีกสมัยใหม่ (โมเดิร์นเทรด) มาเปิดใหม่เรื่อยๆ รวมทั้งร้านสะดวกซื้อขนาดเล็ก (มินิมาร์ท) ทั้งของทุนท้องถิ่น
และทุนต่างชาติที่ขยายสาขาเพิ่มมากขึ้น ทำให้บิ๊กซีต้องปรับตัว และอาศัยจุดแข็งที่มีอยู่คือ การเป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ ทำให้มีวอลุ่มในการขาย จึงสามารถทำราคาได้ รวมทั้งการเน้นขายอาหารสดที่ชูเป็นจุดขาย เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการเลือกสินค้าเองเหมือนไปซื้อในตลาดสด แต่ได้สินค้าคุณภาพระดับห้าง และมีโปรโมชั่นต่างๆ ออกมาจูงใจ” เฉลิมชัย กล่าว
สำหรับความยากง่ายในการทำธุรกิจค้าปลีกในเวียดนามเมื่อเทียบกับไทยแล้ว คนละแบบ ที่เวียดนามอาจจะยากในด้านของการเพิ่งเริ่มโต จึงทำให้โมเดิร์นเทรดกับร้านค้าแบบดั้งเดิมยังใกล้เคียงกัน แต่ก็ถือเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยที่มีความเชี่ยวชาญในการบริหารงานด้านห้างค้าปลีกสมัยใหม่มาพัฒนาให้มีความโดดเด่นและตอบโจทย์ลูกค้า
อย่างไรก็ดี บิ๊กซีเวียดนามปัจจุบันเปิดให้บริการอยู่ 35 สาขา เป็นเบอร์ 2 ในเวียดนาม รองจากโคออฟ (CO.OP mart) ซึ่งเป็นของรัฐบาล แต่ถ้าเป็นห้างค้าปลีกของต่างชาติ บิ๊กซีถือเป็นรายใหญ่สุดของธุรกิจค้าปลีกในเวียดนาม และกำลังจะเปิดเพิ่มอีก 1 สาขาที่ Mytho ทั้งนี้สินค้าไทยที่นำมาวางขายในห้างถือว่ายังมีสัดส่วนน้อยมาก ส่วนใหญ่เป็นแบรนด์ใหญ่ๆ ที่ชาวเวียดนามคุ้นเคย เช่น มาม่า ช้าง สามแม่ครัว เป็นต้น