IM สื่ออุตสาหกรรม เป็นสื่อสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรม มุ่งเน้นนำเสนอข่าวสารด้านบวก ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ธุรกิจ ด้วยเจตนารมณ์ที่ต้องการสร้างพื้นที่ให้กลุ่ม SMEs ได้มีที่ยืน ได้มีโอกาสได้ใช้ช่องทางเคียงคู่ไปกับผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อให้อุตสาหกรรมไทยได้เติบโตไปพร้อมๆ กัน อย่างยั่งยืน
บริษัท สื่ออุตสาหกรรม จำกัด | 02 11 585 22 | an6n@yahoo.com
ทั้งนี้ ข้อมูลจากฟอร์บส์ ไทยแลนด์ ระบุว่า เวียดนามกำลังเปลี่ยนแปลงสู่ความเป็นเมือง มีความต้องการเหล็กกล้าจำนวนมากเพื่อใช้ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน แต่ในปัจจุบันยังไม่มีเอกชนรายใดที่มีขนาดใหญ่
เท่าบริษัท Hoa Phat เจิ่น ดิ่ง ลอง ได้ก่อตั้งบริษัทขึ้นในปี 2535 เริ่มต้นด้วยการขายวัสดุก่อสร้างเล็กๆ น้อยๆ จนกระทั่งกลายมาเป็นผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ในปัจจุบันที่ยังไม่มีบริษัทใดเทียบเคียงได้
ด้วยภาคส่วนการก่อสร้างที่ขยายตัวต่อเนื่องในประเทศเวียดนาม เป็นปัจจัยหลักที่หนุนการเติบโตของกลุ่มบริษัท โดยในปี 2560 กลุ่มบริษัท Hoa Phat มีรายรับ 46.8 ล้านล้านด่อง หรือประมาณ 20,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รายรับเพิ่มขึ้น 38% เป็นกำไรสุทธิ 352 ล้านดอลลาร์ กำไรเพิ่มขึ้นถึง 21% สอดคล้องกับจำนวนการผลิตเหล็กเพิ่มขึ้น 25% ในปี 2560 บริษัทมีจำนวนการผลิตรวม 3 ล้านตัน แบ่งเป็นการผลิตเหล็กก่อสร้างจำนวน 2.2 ล้านตัน ท่อเหล็ก
กล้าจำนวน 6 แสนตัน และส่วนที่เหลือเป็นการผลิตเหล็กชุบสังกะสี (Galvanized Steel)
อุตสาหกรรมเหล็กกล้าในเวียดนามเติบโตต่อเนื่อง เพราะเวียดนามเป็นประเทศกำลังพัฒนา เศรษฐกิจขยายตัวสูง โดยคาดการณ์ว่าในปี 2561 ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศเวียดนาม (จีดีพี) มีแนวโน้มขยายตัวเกินเป้าที่ตั้งไว้ที่ 6.7%
สำนักข่าวท้องถิ่นเวียดนามนิวส์ รายงานว่า ในปี 2561 การผลิตเหล็กในประเทศเวียดนามจะเพิ่มขึ้น 20% ซึ่งแนวโน้มด้านบวกที่ส่งผลให้การผลิตเหล็กในเวียดนามเพิ่มขึ้นมาจากการขยายตัวของเศรษฐกิจในประเทศ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สาธารณูปโภค และการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2561 ตลอดจนรัฐบาลเวียดนามควบคุมคุณภาพเหล็กนำเข้าอย่างใกล้ชิด และสนับสนุนเหล็กที่มีการผลิตในประเทศก่อน
นอกจากนี้ ในช่วงเดือน ม.ค.-มิ.ย. 2561 รัฐบาลมีการเบิกจ่ายงบประมาณส่งผลต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศเช่นกัน ซึ่งข้อมูลของกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า ระบุการผลิตเหล็กและเหล็กกล้าในช่วงเดือน ม.ค.-มิ.ย. 2561 ของเวียดนามผลิตได้ 4.69 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 7% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่เวียดนามเป็นประเทศที่มีการใช้จ่ายด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คิดเป็น 5.8% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี)
แม้ว่าปัจจัยภายนอกจะเอื้ออำนวยให้ธุรกิจเหล็กเติบโต แต่สำหรับบริษัท Hoa Phat Group ต้องยอมรับว่ามาจากการมีผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ด้วย ทั้งนี้ เจิ่น ดิ่ง ลอง ได้แสดงความคิดเห็นผ่านสื่อท้องถิ่นแห่งหนึ่งว่าเขารู้ดีว่าในหลักการทำงาน ไม่ควรนำสมาชิกในครอบครัวหรือญาติเข้ามาดำรงตำแหน่งสำคัญของบริษัท เนื่องจากเกี่ยวข้องกับความสำเร็จของบริษัท แต่จะพิจารณาจากความสามารถของแต่ละบุคคลจริงๆ เพื่อเข้ามาร่วมขับเคลื่อนการเติบโตไปพร้อมกัน
ทั้งนี้ นอกเหนือจากการทำงาน เจิ่น ดิ่ง ลอง ยังมีความสนใจด้านกีฬาและงานอดิเรกอื่นๆ โดยเขาได้ก่อตั้งสโมสรฟุตบอล Hoa Phat ฮานอย นอกจากนี้เขายังชื่นชอบเฮลิคอปเตอร์ โดยในปี 2553 เขาเคยซื้อเฮลิคอปเตอร์ 6 ที่นั่ง มูลค่า 765 ล้านดอลลาร์ (ปัจจุบันขายให้กับบริษัทต่างชาติไปแล้ว) หลายสื่อวิจารณ์ว่าเขาชอบชีวิตที่หรูหรา ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกหากเปรียบเทียบกับรายได้ที่เขามี แต่ก่อนก้าวสู่จุดนี้ เจิ่น ดิ่ง ลอง ต้องต่อสู้เริ่มต้นธุรกิจจากศูนย์ สู่ผู้ผลิตเหล็กครบวงจรแบบปัจจุบัน
โดย โดย...ปิยนุช ผิวเหลือง
ที่มา : https://www.posttoday.com/aec/news/566870