"เหวียน ซวน ฟุค" นายกฯเวียดนาม ได้หารือกับ "สารัชถ์ รัตนาวะดี" ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ กัลฟ์ฯ เผยสนับสนุนพลังงานทดแทน และขอให้ลงทุนต่อเนื่อง ย้ำอย่าละทิ้งโอกาสด้านการลงทุนในเวียดนาม
นายเหวียน ซวน ฟุค นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ได้พบกับนายสารัชถ์ รัตนาวะดี ผู้ก่อตั้งและประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดิวิล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) โดยระบุว่า
เวียดนามตอบรับการลงทุนในพลังงานทดแทน หรือพลังงานจากแสงอาทิตย์ของกัลฟ์ฯ พร้อมระบุว่า รัฐบาลเวียดนามให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ กับโครงการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาพลังงานประเภทนี้ และไม่ได้สนับสนุนให้ใช้พลังงานจากถ่านหิน
และต้องการให้บริษัทพลังงานชั้นนำของไทยอย่างกัลฟ์เดินหน้าส่งเสริมการลงทุนในส่วนนี้ในเวียดนามต่อไป
นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ย้ำว่า ปัจจุบันไทยได้เข้ามาลงทุนในโครงการต่างๆในเวียดนามกว่า 490 โครงการ มีมูลค่ารวมเกือบ 10,000 ล้านดอลลาร์ สะท้อนถึงความสำเร็จในการเข้ามาลงทุนทางธุรกิจในเวียดนามของบรรดาผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะในโครงการขนาดใหญ่ที่บรรดานักลงทุนชาวไทยมีส่วนร่วม อาทิ โครงการ Southern Petrochemical Complex Project ซึ่งในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม เรียกร้องให้บริษัทกัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดิวิล็อปเมนท์ อย่าละทิ้งโอกาสด้านการลงทุนในเวียดนาม
นอกจากนี้ ผู้นำเวียดนามยังรับปากว่า รัฐบาลฮานอยจะสร้างบรรยากาศและสภาพแวดล้อมที่ดี เอื้อต่อการเข้ามาลงทุนทำธุรกิจในเวียดนาม ซึ่งรวมถึงในอุตสาหกรรมพลังงานที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ พร้อมทั้งเรียกร้องให้บรรดาผู้บริหารของบริษัทกัลฟ์ ทำงานร่วมกับกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนาม เพื่อกำหนดราคาและร่วมมือกันในด้านต่างๆ ที่เป็นการสนับสนุนการลงทุน ขณะเดียวกันก็ย่ำว่า บริษัทกัลฟ์ต้องกำหนดราคาในลักษณะที่สมเหตุสมผลและเป็นราคาที่สามารถแข่งขันได้ เมื่อมีบริษัทหลายแห่งเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมนี้
นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ผู้ก่อตั้งและประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดิวิล็อปเมนท์ กล่าวว่า "เราขอขอบคุณนายกรัฐมนตรี เหวียน ซวน ฟุค ของเวียดนามที่ให้การสนับสนุนเราด้วยดีตลอดมา บริษัทเราสนใจในอุตสาหกรรมพลังงานทดแทนและที่ผ่านมา ได้ร่วมมือกับหุ้นส่วนหลายแห่งในเวียดนามเพื่อผลักดันโครงการบางโครงการให้บรรลุผลสำเร็จ"
นอกจากนี้ นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ยังกล่าวว่า บริษัทยังคงเดินหน้าศึกษาและเพิ่มการลงทุนในอุตสาหกรรมพลังงานจากแสงอาทิตย์ในเวียดนาม พร้อมทั้งมั่นใจว่านโยบายที่เอื้อต่อการลงทุนในอุตสาหกรรมนี้ของรัฐบาลเวียดนาม จะช่วยให้โครงการต่างๆ บรรลุตามเป้าและดึงดูดให้บรรดานักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในเวียดนามมากขึ้น