โดยงาน China International Brand Underwear Fair (SIUF) ซึ่งจัดขึ้นโดย "Shenzhen Shengshi Jiuzhou Exhibition" และมี "Tarsus Group" เป็นเจ้าของงานนั้น จะก้าวขึ้นแท่นเป็นงานแสดงสินค้าแบบเอ็นด์-ทู-เอ็นด์ที่ครบจบในที่เดียว และเป็นมหกรรมแสดงสินค้าในอุตสาหกรรมชุดชั้นในที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยงาน SIUF ครั้งที่ 14 จะยังคงมุ่งเน้นไปที่การมอบห่วงโซ่อุปทานและการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมชุดชั้นใน ไม่ว่าจะเป็นผ้า เครื่องประดับ แบรนด์ การผลิต และโซลูชันเพื่อชุดชั้นใน ชุดว่ายน้ำ ชุดกีฬา และชุดอยู่บ้าน

ด้วยจำนวนผู้จัดแสดงงาน 825 ราย และผู้เข้าชมงานอีก 150,000 คน จาก 49 ประเทศในปี 2561 มหกรรม SIUF จึงนับเป็นแหล่งทรัพยากรที่สำคัญสำหรับผู้ประกอบการ ผู้จัดจำหน่าย ผู้ค้าปลีก ซัพพลายเออร์ เจ้าของแบรนด์ และดีไซเนอร์ในอุตสาหกรรมชุดชั้นใน

โดยมหกรรมซึ่งมีพื้นที่จัดงานกว่า 73,000 ตารางเมตรนี้ ได้รับการสนับสนุนจากหลายหน่วยงานด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นสมาพันธ์อุตสาหกรรมผ้าถักแห่งประเทศจีน สมาพันธ์สิ่งทอแห่งมณฑลกวางตุ้ง และสมาพันธ์ชุดชั้นในเซินเจิ้น

ด้วยการปรับคอนเทนต์ของงานให้เข้ากับเทรนด์ของลูกค้า มหกรรม SIUF ในปี 2562 จึงอัดแน่นไปด้วยกิจกรรมต่างๆ มากมายตลอดระยะเวลา 3 วันของการจัดงาน อาทิ "Golden Dudou Awards" เวทีประกาศรางวัลที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดสำหรับแบรนด์และผู้จัดจำหน่ายชุดชั้นในของจีน, การประกวดออกแบบชุดชั้นในและชุดอยู่บ้าน, การประชุมเทรนด์ชุดชั้นใน, การแสดงแฟชันโชว์ของแบรนด์ต่างๆ และการแสดง "Supermodel Talent show"      

นอกเหนือจาก 650 แบรนด์ดังที่มาร่วมเปิดบูธกันแบบจัดเต็มแล้ว ภายในงานยังมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์และเทรนด์ใหม่ๆ อีกมากมาย สำหรับบริษัทเจ้าของแบรนด์ที่จะมาร่วมจัดแสดงในงาน ประกอบไปด้วย Invista, Lenzing, Muehlmeier, Eurojersey, Penn Textile Solutionและ Toyobo รวมถึงเจ้าของแบรนด์อย่าง EmbryForm, Ordifen, Aimer, Nubra, Cosmolady, Oleno, Sunny และ DE Ulife 

Gber Hongkong แบรนด์เสื้อผ้าสำหรับเด็ก กล่าวว่า "งาน SIUF ซึ่งเป็นมหกรรมที่คนในแวดวงอุตสาหกรรมชุดชั้นในจะพลาดไม่ได้นั้น ได้มอบโอกาสให้เราได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์บนเวทีอันยิ่งใหญ่" ขณะที่ Yunshang Hangzhou หนึ่งในผู้จัดจำหน่ายที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในจีน กล่าวว่า "SIUF เป็นมหกรรมที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในอุตสาหกรรมชุดชั้นใน อีกทั้งยังเป็นแพลตฟอร์มแห่งการเรียนรู้ที่ผู้ประกอบการจะได้มีโอกาสศึกษาแบรนด์ โมเดล เทคโนโลยี รวมถึงเทรนด์แฟชันใหม่ๆ"

สำหรับพาวิลเลียนนานาชาติในปีนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจของผู้จัดงานในการเพิ่มการมองเห็นให้กับผู้จัดแสดงจากต่างชาติ อีกทั้งยังได้มอบคุณค่าและบริการที่ดีที่สุด ด้วยการสนับสนุนสื่อและเครือข่ายของผู้ซื้อ