IM สื่ออุตสาหกรรม เป็นสื่อสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรม มุ่งเน้นนำเสนอข่าวสารด้านบวก ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ธุรกิจ ด้วยเจตนารมณ์ที่ต้องการสร้างพื้นที่ให้กลุ่ม SMEs ได้มีที่ยืน ได้มีโอกาสได้ใช้ช่องทางเคียงคู่ไปกับผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อให้อุตสาหกรรมไทยได้เติบโตไปพร้อมๆ กัน อย่างยั่งยืน
บริษัท สื่ออุตสาหกรรม จำกัด | 02 11 585 22 | an6n@yahoo.com
นายอาทิตย์ ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี จำกัด (มหาชน) หรือ CCP เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทฯมีงานในมือ (Backlog) ประมาณ 2,000 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ในระยะเวลา 1 ปี 6 เดือน และเตรียมทยอยประมูลงานเพิ่มอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นโครงการที่มีคุณภาพ ด้วยการคัดเลือกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อเพื่อเพิ่มอัตรากำไร ซึ่งปีนี้ บริษัทฯตั้งเป้าหมายรายได้ไว้ประมาณ 2,800 ล้านบาท จากงานภาครัฐ 80% ภาคเอกชน 20% เติบโตขึ้น 10% และตั้งงบสำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์และปรับปรุงเครื่องจักรเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตไว้ที่ประมาณ 60 ล้านบาท
โดยความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์คอนกรีตมีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทฯได้เริ่มทยอยดำเนินงานก่อสร้างไปแล้วหลายโครงการ รวมถึงโครงการของหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ต่างๆที่มีการก่อสร้างอย่างต่อเนื่องอาทิ งานถนน งานอาคารสำนักงาน ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนทรงตัว บริษัทฯจึงมุ่งเน้นการปรับโมเดลธุรกิจคอนกรีตผสมเสร็จ(Ready-Mixed Concrete) เนื่องจากเทรนด์การก่อสร้างในปัจจุบันใช้ระยะเวลาที่สั้นลง จึงต้องปรับกลยุทธ์ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า โดยมุ่งเน้นการให้บริการที่ครอบคลุมและคล่องตัว เพื่อเสริมศักยภาพการแข่งขัน เพิ่มความสามารถในการทำกำไร ซึ่งสินค้า Precast ยังคงเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ รวมถึงออกสินค้านวัตกรรมใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับงานโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ งานถนน งานสะพาน ซึ่งมีความต้องการที่สูงขึ้น โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานโซนภาคตะวันออกเพื่อรองรับโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ (EEC)
แผนการดำเนินธุรกิจต่อจากนี้ บริษัทฯจะมุ่งเน้นการปรับโมเดลธุรกิจคอนกรีตผสมเสร็จ (Ready Mix) เนื่องจากเทรนด์การก่อสร้างในปัจจุบันใช้ระยะเวลาที่สั้นลง ต้องปรับกลยุทธ์ให้ตรงความต้องการของลูกค้า
"และเน้นการให้บริการในลักษณะ Mobile Plant โดยจัดตั้งแพลนต์ปูนชั่วคราวที่สามารถรื้อถอนได้ ให้บริการเช่ารถขนส่ง ขายคอนกรีต รวมทั้งให้บริการตรวจสอบคุณภาพผงปูน เพื่อเสริมศักยภาพการแข่งขัน เพิ่มความสามารถในการทำกำไร”
นอกจากนี้บริษัทยังได้มีการขยายฐานลูกค้าไปในหลากหลายอุตสาหกรรม เพื่อทำให้ราคาขายสินค้าปรับตัวดีขึ้น จากกลุ่มปิโตรเคมี กลุ่มทางหลวง การไฟฟ้าและกรมชลประทาน เป็นต้น รวมทั้งจะใช้งบลงทุนราว 60 ล้านบาทเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และปรับปรุงเครื่องจักรเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอีกด้วย โดยสินค้า Precast ยังคงเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์สเปกพิเศษ ออกสินค้านวัตกรรมใหม่อย่างต่อเนื่อง รองรับงานโครงสร้างพื้นฐาน เช่น งานถนน งานสะพาน ซึ่งบริษัทฯขยายฐานลูกค้าไม่จำกัดเฉพาะภาคตะวันออกเท่านั้น แต่ได้เข้าประมูลงานทั่วประเทศ ขณะที่สินค้าประเภทบล็อกคอนกรีตสำเร็จรูป เช่น บล็อกปูพื้น กำแพงกันดิน มีความต้องการใช้งานเพิ่มสูงขึ้น
“ปัจจุบันมีหน่วยงานหลายแห่งเริ่มนำผลิตภัณฑ์ของบริษัทเข้าไปใช้ในงานด้าน Landscape ในปีนี้และบริษัทจะเน้นการทำตลาดผลิตภัณฑ์ในส่วนนี้อย่างต่อเนื่อง ด้วยการเปิดตลาดใหม่เพื่อขยายฐานลูกค้าและกระจายความเสี่ยง รวมทั้งขยายช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูปผ่านช่องทางการจำหน่ายที่มีประสิทธิภาพเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้ารายย่อยทั่วประเทศ”
สำหรับผลประกอบการในปีที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทฯมีรายได้รวม 2,645 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 164 ล้านบาท หรือ 6.6 %จากปี ทั้งนี้ผลประกอบการของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นในทุกๆกลุ่ม โดยกลุ่มรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น 7.8 % จากปริมาณความต้องการผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูปของโครงการภาครัฐและเอกชนสูงขึ้น และการพัฒนาสินค้าใหม่ออกสู่ตลาด ส่งผลให้ยอดขายปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งกลุ่มรายได้จากการให้เช่าและบริการปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 113.9% สาเหตุจากการให้เช่าและบริการรถขนส่งสินค้าประเภทคอนกรีตผสมเสร็จ (Ready-Mixed Concrete) อีกทั้งผลการดำเนินงานของบริษัทย่อย คือ บมจ.สมาร์ทคอนกรีต(SMART) ปรับตัวดีขึ้นมาก
อนึ่ง ผลประกอบการของบริษัทปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง มาจากปริมาณความต้องการผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูปของโครงการภาครัฐและเอกชนสูงขึ้น ส่งผลให้ยอดขายปรับตัวเพิ่มขึ้น ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมา ถือเป็นจุดต่ำสุดของปีแล้ว จากมีช่วงวันหยุดยาวและเป็นฤดูฝนทำให้ส่งมอบงานได้ช้า แต่ในปีนี้ฝนตกน้อยทำให้บริษัทสามารถส่งมอบงานได้มากขึ้น
“ทิศทางภาพรวมตลาดผลิตภัณฑ์คอนกรีตครึ่งปีหลังมีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานในโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC ซึ่งนิคมอุตสาหกรรมได้ทยอยดำเนินงานก่อสร้าง อีกทั้งยังมีโครงการของหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ต่างๆ ที่มีการก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง เช่น งานถนน งานก่อสร้างอาคารสถานีรถไฟฟ้าสายต่างๆ ซึ่งจะส่งผลให้ความต้องการสินค้ากลุ่มวัสดุก่อสร้าง-ผลิตภัณฑ์คอนกรีตปรับตัวดีขึ้น ขณะที่การลงทุนภาคเอกชน ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ยังทรงตัว” นายอาทิตย์ กล่าวทิ้งท้าย
บริษัท ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี จำกัด (มหาชน) เริ่มต้นจากการเป็นบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีตที่เกี่ยวข้องกับงานสาธารณูปโภค ต่อมาได้ขยายงานในธุรกิจคอนกรีตมาอย่างต่อเนื่อง และผลดำเนินงานเติบโต ก้าวหน้ามาโดยลำดับ จนปัจจุบัน เป็นหนึ่งในผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีตอย่างครบวงจรรายใหญ่ของประเทศ และรายใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออก โดยสินค้าคอนกรีตของบริษัทฯ ภายใต้เครื่องหมายการค้า “CCP” ประกอบด้วย คอนกรีตผสมเสร็จ คอนกรีตสำเร็จรูปสำหรับงานโครงสร้างงานระบบ และคอนกรีตสำเร็จรูปสำหรับงานตกแต่ง รวมทั้ง งานสั่งทำผลิตภัณฑ์คอนกรีตที่มีรูปแบบและคุณสมบัติเฉพาะ (Made to order) ซึ่งบริษัทฯ มีโรงงานผลิตตั้งกระจาย อยู่ในเขตพื้นที่ภาคตะวันออก กรุงเทพฯ และจังหวัดปริมณฑล กว่า 24 แห่ง มีกำลังการผลิต 3,600,000 คิวต่อปี ที่พร้อมผลิตและจัดส่งผลิตภัณฑ์ให้แก่ลูกค้าทั่วประเทศ
นอกจากการประกอบธุรกิจคอนกรีต บริษัทฯ ยังลงทุนจัดตั้งบริษัทย่อย 4 แห่ง เพื่อประกอบธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่ช่วยสนับสนุนการดำเนินงานบริษัทภายในกลุ่ม ได้แก่ 1. บริษัท ชลบุรีกันยง จำกัด ประกอบธุรกิจร้านจำหน่ายสินค้า วัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน ทั้งค้าปลีกและค้าส่ง ภายใต้ชื่อ “กันยงโฮมสโตร์” 2. บริษัท สมาร์ทคอนกรีต จำกัด ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายอิฐมวลเบา ภายใต้ชื่อ “Smart Block” 3. บริษัท ตะวันออกการขนส่ง จำกัด ประกอบธุรกิจให้เช่ายานพาหนะแก่บริษัทในเครือ 4. บริษัท ชลประทีปสินทรัพย์ จำกัด ประกอบธุรกิจให้เช่าทรัพย์สินที่ดิน อาคารสำนักงานและโรงงานแก่บริษัทในเครือ