IM สื่ออุตสาหกรรม เป็นสื่อสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรม มุ่งเน้นนำเสนอข่าวสารด้านบวก ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ธุรกิจ ด้วยเจตนารมณ์ที่ต้องการสร้างพื้นที่ให้กลุ่ม SMEs ได้มีที่ยืน ได้มีโอกาสได้ใช้ช่องทางเคียงคู่ไปกับผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อให้อุตสาหกรรมไทยได้เติบโตไปพร้อมๆ กัน อย่างยั่งยืน
บริษัท สื่ออุตสาหกรรม จำกัด | 02 11 585 22 | an6n@yahoo.com
ซึ่งในปี 2561 สามารถยกระดับความยั่งยืนของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทยสู่เวทีโลก โดยกลุ่มทรูได้รับคะแนนสูงสุดเป็นที่ 1 ของโลกในหมวดธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม อีกทั้งยังได้รับการยอมรับให้เป็นสมาชิกกลุ่มดัชนี FTSE4Good Index Series ในดัชนีประเภท Emerging Index และ ASEAN 5 Index ด้วยคะแนนประเมินที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมและภาคธุรกิจอื่นๆของไทยในปีนี้ อันเป็นผลจากการพัฒนาองค์กรขึ้นอย่างโดดเด่นครอบคลุมทั้ง 3 มิติอย่างต่อเนื่องทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ตามยุทธศาสตร์ภายใต้กรอบ 3 H’s : Heart Health Home ของกลุ่มทรู ที่มุ่งสร้างคุณค่าระยะยาวให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม
นายวิเชาวน์ รักพงษ์ไพโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มบริษัท (ร่วม) บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า
นับเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งของกลุ่มทรู ในฐานะบริษัทสื่อสารโทรคมนาคมเพียงรายเดียวของไทย ที่มีการพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรมและเติบโตอย่างยั่งยืนเป็นที่ยอมรับในระดับสากล โดยได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิกกลุ่มดัชนีความยั่งยืนระดับโลกต่อเนื่อง 2 ปีซ้อน
โดยล่าสุด นอกจากจะคงสถานภาพสมาชิกกลุ่มดัชนีดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices หรือ DJSI) ประเภท Emerging Markets แล้ว ยังได้รับการประกาศคะแนนสูงสุดเป็นอันดับ 1 ของโลกในหมวดธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมประจำปี 2561 ซึ่งนับเป็นพัฒนาการที่ก้าวกระโดด ยกระดับความยั่งยืนของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทยให้โดดเด่นในเวทีโลก โดยการประเมินจากผลการดำเนินงานที่ครอบคลุม 3 มิติ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ตามยุทธศาสตร์ภายใต้กรอบ 3 H’s ของกลุ่มทรู ซึ่งประกอบด้วย Heart – มุ่งมั่นทำธุรกิจด้วยใจที่ยั่งยืน Health - มุ่งมั่นสร้างสังคมที่ยั่งยืน และ Home - มุ่งมั่นเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน ซึ่งบริษัทฯ ได้ยึดเป็นหลักปฏิบัติมาโดยตลอด ขณะเดียวกัน ในปีนี้ กลุ่มทรูยังคงได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกกลุ่มดัชนี FTSE4Good Index Series โดยติดอันดับในกลุ่ม Emerging Index และ ASEAN 5 Index ด้วยคะแนนประเมินที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมและภาคธุรกิจอื่นๆของประเทศในปีนี้ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่นักลงทุน นักวิเคราะห์ทางการเงิน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่นๆทั่วโลกให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการตัดสินใจเพื่อการลงทุน ”
ดร.กิตติณัฐ ทีคะวรรณ กรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มบริษัท (ร่วม) บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า “การได้รับคัดเลือกให้เป็นสมาชิกถึง 2 ดัชนีระดับโลกอย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจากการดำเนินธุรกิจตามแนวทางพัฒนาอย่างยั่งยืนที่ชัดเจนของกลุ่มทรู โดยทุกคนในองค์กรต่างตั้งใจและทุ่มเทอย่างเต็มที่ และด้วยความเชื่อมั่นในการมีกันและกัน บนพื้นฐานของการกำกับดูแลกิจการที่ดี จึงได้นำศักยภาพนวัตกรรม เทคโนโลยีสื่อสาร ร่วมสร้างคุณค่าทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ทั้งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั่วประเทศ การคิดค้นผลิตภัณฑ์และบริการที่คำนึงถึงทุกกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตลอดทั้งกระบวนการ และนำนวัตกรรมเข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการดำเนินธุรกิจ รวมถึงการเสริมศักยภาพของคู่ค้าและบุคลากรขององค์กรในทุกๆ ด้าน ตลอดจนสนับสนุนการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้และพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเด็ก ผู้สูงอายุและกลุ่มเปราะบาง เพื่อสร้างคุณค่าระยะยาวให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม อันจะนำไปสู่การเติบโตทางธุรกิจอย่างมั่นคงและยั่งยืนในอนาคตต่อไป”
เกี่ยวกับ FTSE4Good
กลุ่มดัชนีหลักทรัพย์ FTSE4Good เป็นการประเมินที่ดำเนินการโดย FTSE Russell ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ ดัชนี FTSE4Good ถูกจัดทำขึ้นครั้งแรกในเดือนธันวาคม 2559 โดยนำเอาบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่เข้าเกณฑ์จากกว่า 20 ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ อาทิ จีน บราซิล แอฟริกาใต้ ไต้หวัน และรัสเซีย ดัชนี FTSE4Good Emerging Market ได้พิจารณาตัวบ่งชี้กว่า 300 ด้านของสมาชิก ทั้งในหมวดสิ่งแวดล้อมอันได้แก่ มาตรการในเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาวะอากาศ (Climate Change) ระบบรอยเท้าทางนิเวศ (Environmental Footprint) และระบบห่วงโซ่อุปทานสิ่งแวดล้อม (Environmental Supply Chain) ในหมวดสังคมได้แก่ โครงการความริเริ่มเพื่อสังคม (Community Initiatives) สิทธิมนุษยชน (Human Rights) และข้อปฏิบัติในเรื่องแรงงาน (Labor Practices) ในหมวดบรรษัทภิบาลได้แก่ การกำกับดูแลองค์กร (Corporate Governance) การบริหารความเสี่ยง (Risk Management) และความโปร่งใสในเรื่องภาษี (Tax Transparency) ซึ่งปัจจัยเหล่านี้เป็นสิ่งที่ นักลงทุน นักวิเคราะห์ทางการเงิน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่นๆทั่วโลกให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการตัดสินใจเพื่อการลงทุน
เกี่ยวกับDJSI
DJSI เป็นกลุ่มดัชนีความยั่งยืนระดับสากลที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก โดยทุกปีจะมีการคัดเลือกบริษัทขนาดใหญ่มากกว่า 3,400 บริษัททั่วโลกซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าบริษัทสูงเป็นอันดับต้น มาเข้าร่วมการประเมินด้านความยั่งยืนของธุรกิจ (Corporate Sustainability Assessment หรือ CSA) โดยปีนี้ บริษัทจดทะเบียนไทยที่ได้รับการคัดเลือกเป็นสมาชิก DJSI ประจำปี 2561 ทั้งสิ้น 20 บริษัท