IM สื่ออุตสาหกรรม เป็นสื่อสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรม มุ่งเน้นนำเสนอข่าวสารด้านบวก ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ธุรกิจ ด้วยเจตนารมณ์ที่ต้องการสร้างพื้นที่ให้กลุ่ม SMEs ได้มีที่ยืน ได้มีโอกาสได้ใช้ช่องทางเคียงคู่ไปกับผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อให้อุตสาหกรรมไทยได้เติบโตไปพร้อมๆ กัน อย่างยั่งยืน
บริษัท สื่ออุตสาหกรรม จำกัด | 02 11 585 22 | an6n@yahoo.com
นายธีระศักดิ์ วิกิตเศรษฐ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอส แอนด์ เจ อินเตอร์เนชั่นแนล เอนเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ S&J เปิดเผยว่า บริษัทฯเพิ่งได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ “Best of the Best Award” ประจำปี 2565 จาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ซึ่งถือว่าเป็นครั้งที่สองที่บริษัทฯได้รับรางวัลนี้ จากการผ่านการพิจารณาเรื่องกระบวนการผลิตและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยด้วยความซื่อสัตย์และมีจริยธรรม ในกระบวนการผลิต การจัดหาผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนและมีความรับผิดชอบอย่างสม่ำเสมอ และเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับบริษัทอื่น แสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งส่งเสริมกิจกรรมเพื่อพัฒนาสังคม คุณธรรม วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม
“ผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจกับผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม กระบวนการที่ได้มาซึ่งสินค้า ต้องตอบโจทย์ในเรื่องของความยั่งยืน นวัตกรรมที่เราสร้างขึ้นมาต้องตอบโจทย์ลูกค้า เช่น น้ำมันปาล์มที่นำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ของเรานั้นมาจากสวนที่ไม่ได้รุกล้ำป่าหรือเปล่า จากมุมมองของลูกค้า ซึ่งถ้าเราไม่ทำตามนั้นเค้าก็จะไม่ซื้อสินค้า และเรื่องความถูกต้องของผลิตภัณฑ์ สารอะไรใช้ได้หรือใช้ไม่ได้ในเครื่องสำอางเหล่านั้น เมื่อเราจะพัฒนาสินค้าเหล่านั้นขึ้นมา เราก็ต้องไม่ใช้สารต้องห้ามเหล่านั้น ผลกระทบอันนี้ถือว่าเป็นผลกระทบที่ใหญ่มากเลยนะครับ คือถ้าเราไปสร้างสินค้ามาตัวหนึ่งแล้วมีสารที่ถูกต้องห้าม เราจะขายสินค้าเหล่านั้นไม่ได้เลย สำคัญที่สุดคือว่า Brand Image จะเสียไปด้วย ผู้บริโภคก็อาจจะไม่ให้ความเชื่อมั่น ในผลิตภัณฑ์ภายไต้แบรนด์นั้นอีกต่อไป”
"ในเรื่องของสิ่งแวดล้อม ตัวอย่างเรื่องของพลังงาน เราก็กลับไปที่การพัฒนาสูตร ไปที่จุดเริ่มต้นเลย เพื่อให้เราสามารถจะมีสูตรที่เราสามารถเอาไปทำสินค้าโดยการใช้พลังงานลดลงมากกว่าครึ่ง ในการใช้น้ำก็เช่นกัน เรานำน้ำเสียหรือน้ำทิ้งนั้นมาบำบัดแล้วเอามาใช้งานต่อ เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งผลที่ได้กลับมานอกจากจะให้เราสามารถที่จะตอบโจทย์ในเรื่องของความยั่งยืนแล้ว ก็จะทำให้ลูกค้าชื่นชอบและทำให้เราขายของได้มากขึ้นด้วย เพราะลูกค้าเค้าเห็นว่าเรามีกระบวนการภายในอย่างนี้ พอเค้ามาซื้อเรา มันก็เป็นภาพลักษ์ที่ดีต่อแบรนด์ขของเค้า และสิ่งที่ได้อีกอันคือ สามารถลดการใช้พลังงานในกระบวนการผลิตลงได้มากกว่า 50%"
"การพัฒนาธุรกิจสู่ความยั่งยืนมีผลดีกับบริษัทหลายประการ ทำให้ลูกค้าเกิดความมั่นใจในบริษัท S&J ว่าเราจะทำให้แบรนด์ของเขาแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ด้วยนวัตกรรมที่เราสร้างขึ้น เพราะเราตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค และเราก็ดูแลสิ่งแวดล้อมด้วย"
โดยตลอดระยะเวลากว่า 40 ปีที่ S&J ได้คิดค้น ผลิต และพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ ความงามและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวสำหรับพันธมิตรทั่วโลก เรานำเสนอ โซลูชั่นแบบครบวงจรสำหรับแบรนด์และผู้ค้าปลีก โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้ง อยู่ในกรุงเทพฯ และยังมีสำนักงานในยุโรป สหราชอาณาจักร และเอเชียอีกด้วย ด้วยการพัฒนาธุรกิจสู่ความยั่งยืนมีประโยชน์หลากหลายประการกับ S&J ทำให้ลูกค้าและผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นในบริษัทด้วยนวัตกรรมที่สร้างขึ้น เพราะบริษัทให้ความสำคัญกับการตอบโจทย์ของลูกค้า และยังดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมให้ยั่งยืนไปพร้อมกัน เรียกได้ว่าเป็นการพึ่งพาซึ่งกันและกันอย่างสมดุลและรับผิดชอบ
ด้วยการพัฒนาธุรกิจสู่ความยั่งยืนมีประโยชน์หลากหลายประการกับ S&J ทำให้ลูกค้าและผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นในบริษัทด้วยนวัตกรรมที่สร้างขึ้น เพราะบริษัทให้ความสำคัญกับการตอบโจทย์ของลูกค้า และยังดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมให้ยั่งยืนไปพร้อมกัน
ซึ่งบริษัทฯเป็นผู้ผลิตและส่งมอบผลิตภัณฑ์เพื่อความงามด้วยนวัตกรรมล้ำสมัย ถือได้ว่าเป็นต้นแบบธุรกิจที่ประสบความสําเร็จในการพัฒนาองค์กรสู่ความยั่งยืน มีการวิเคราะห์ประเด็นสำคัญทางธุรกิจ เพื่อนำมาสู่การสร้างนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ลูกค้าและมีความรับผิดชอบต่อผู้บริโภค โดย มีลูกค้าและคู่ค้าทางธุรกิจที่สำคัญอยู่ทั่วโลกทั้งในยุโรปและเอเชีย ให้บริการแบบ One-stop Service ที่ช่วยจัดการทุกความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถปรับแต่งความสินค้าให้รองรับทั้งแบรนด์และธุรกิจค้าปลีก โดยดูแลทุกกระบวนการตั้งแต่การค้นหาผลิตภัณฑ์ การผลิต ไปจนถึงการทำการตลาดและการขนส่ง
นอกจากนี้ ผู้บริโภคยังหันมาให้ความสนใจกับผลิตภัณฑ์ที่สกัดจากธรรมชาติซึ่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้เกิดการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ประเภทใหม่ ๆ ที่ใช้สมุนไพรตามธรรมชาติเป็นวัตถุดิบในการผลิตผลิตภัณฑ์เครื่องสําอางมีแนวโน้มเติบโตอย่างรวดเร็วมากขึ้น บริษัทฯ ใช้กลยุทธ์การตลาด โดยเน้นคุณภาพของสินค้าที่มาตรฐานสูง รวมถึงมีการออกแบบบรรจุภัณฑ์ของสินค้าให้มี ความสวยงาม ทันสมัย สะดวกต่อการใช้งาน อีกทั้งมีการวิจัยและพัฒนาสินค้าเพื่อเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการ ของลูกค้าดังกล่าว และขยายฐานสู่ลูกค้าใหม่ เพื่อเสริม สร้างความมั่นคงและเพิ่มศักยภาพการเติบโตของธุรกิจอย่างยั่งยืน ซึ่งการตั้ง ราคาจะคํานึงถึงภาพลักษณ์ของสินค้า ต้นทุนการผลิต และต้นทุนการตลาดเป็นพื้นฐาน เน้นความเหมาะสมของคุณภาพกับราคาที่ ดึงดูดความสนใจของลูกค้า โดยคํานึงถึงความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า
โดยบริษัทฯ ได้ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม โดยล่าสุดบริษัทฯได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อแนวปะการัง เนื่องจากแนวปะการังเป็นระบบนิเวศที่มีค่าที่สุดในโลก ซึ่งสนับสนุนและส่งเสริมด้านเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมคิดเป็นเงินมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ เนื่องจากแนวปะการังเป็นทั้งแหล่งอาหาร แนวป้องกันชายฝั่ง และเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม ในปัจจุบันระบบนิเวศแนวปะการังทั่วโลกต้องเผชิญกับภัยคุกคามรุนแรงในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การทำประมง มลพิษทางบก การพัฒนาชายฝั่งทะเล โรคภัยไข้เจ็บ รวมทั้งการรุกรานของชนิดพันธุ์ต่างถิ่น
“ที่ S&J เราใส่ใจต่อความยั่งยืนทางธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และเรายังคงมุ่งมั่นที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ปราศจากสารเคมีหรือส่วนผสมที่ทำลายแนวปะการังและสิ่งมีชีวิตทางทะเล”
ทั้งนี้นักวิทยาศาสตร์พบว่าสารเคมีบางชนิดที่อยู่ในครีมกันแดดและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหลายชนิดส่งผลเสียและทำลายแนวปะการังและสิ่งมีชีวิตทางทะเล ในแต่ละปี มีครีมกันแดดประมาณ 14,000 ตัน ตกค้างอยู่ในมหาสมุทร ซึ่งพบความเสียหายอย่างมากบริเวณแนวปะการังที่เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยว
ศ. ดร. ภญ. มาลิน อังสุรังษี ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและพัฒนา รับมอบรางวัล “Best of the Best Award” ประจำปี 2022 จาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
ด้าน ศ.ดร.ภญ. มาลิน อังสุรังษี ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและพัฒนา บริษัท เอส แอนต์ เจ อินเตอร์เนชั่นแนล เอนเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “สาร Oxybenzone, Octinoxate, 4-Methylbenzilidene Camphor และ Butylparaben เป็นสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อแนวปะการังและสิ่งมีชีวิตทางทะเล จากการศึกษาผลิตภัณฑ์ดูแลผิวทั่วโลกพบว่า ผลิตภัณฑ์ราว 3,500 รายการ มีส่วนผสมของสารเคมีที่ส่งผลกระทบต่อแนวปะการัง ทั้งนี้ S&J ส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมโดยมุ่งมั่นที่จะคิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ไม่เป็นเป็นอันตรายต่อแนวปะการังและสิ่งมีชีวิตทางทะเล”
“เราในนามของ S&J International และทีมงานมีความภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้รับการ ยอมรับจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เรามุ่งมั่น อย่างเต็มที่ในการพัฒนาบริษัทให้มีมาตรฐานสูงสุดและเป็นพลเมืององค์กรที่ดีที่สุดเสมอมา”
บริษัทฯ ยังคงใช้การวางแผนทางด้านสูตรของผลิตภัณฑ์ โดยจะมีการปรับสูตรที่มีคุณภาพและใช้วัตถุดิบที่ไม่เฉพาะเจาะจง สําหรับแต่ละสูตรให้มากเกินความจําเป็น เพื่อให้บริษัทไม่ต้องจัดซื้อวัตถุดิบที่หลากหลาย แต่เป็นการสั่งซื้อวัตถุดิบน้อยรายการโดยได้ ราคาที่ตํ่า เพื่อให้ต้นทุนการผลิตสามารถแข่งขันได้ในตลาด ปริมาณการสั่งซื้อจากกลุ่มลูกค้าในแถบเอเชียเพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทสามารถบริหารจัดการการจัดจำหน่ายให้ดียิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง