IM สื่ออุตสาหกรรม เป็นสื่อสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรม มุ่งเน้นนำเสนอข่าวสารด้านบวก ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ธุรกิจ ด้วยเจตนารมณ์ที่ต้องการสร้างพื้นที่ให้กลุ่ม SMEs ได้มีที่ยืน ได้มีโอกาสได้ใช้ช่องทางเคียงคู่ไปกับผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อให้อุตสาหกรรมไทยได้เติบโตไปพร้อมๆ กัน อย่างยั่งยืน
บริษัท สื่ออุตสาหกรรม จำกัด | 02 11 585 22 | an6n@yahoo.com
นายอาทิตย์ ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี จำกัด (มหาชน) หรือ CCP เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจในปี 2563 นี้ บริษัทจะมุ่งเน้นการปรับโมเดลธุรกิจคอนกรีตผสมเสร็จ(Ready-Mixed Concrete) เนื่องจากเทรนด์การก่อสร้างในปัจจุบันใช้ระยะเวลาที่สั้นลง บริษัทฯจึงต้องปรับกลยุทธ์ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า โดยมุ่งเน้นการให้บริการที่ครอบคลุมและคล่องตัว เพื่อเสริมศักยภาพการแข่งขัน เพิ่มความสามารถในการทำกำไร ซึ่งสินค้า Precast ยังคงเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ รวมถึงออกสินค้านวัตกรรมใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับงานโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ งานถนน งานสะพาน ซึ่งมีความต้องการที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานโซนภาคตะวันออกเพื่อรองรับโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ (EEC)
โดยความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์คอนกรีตปี 2563 นี้มีแนวโน้มดีขึ้น และได้เริ่มทยอยดำเนินงานก่อสร้างไปแล้วหลายโครงการ รวมถึงโครงการของหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ต่างๆที่มีการก่อสร้างอย่างต่อเนื่องอาทิ งานถนน งานอาคารสำนักงาน ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนทรงตัว ปัจจุบันบริษัทมี Backlog ประมาณ 1,700 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ในระยะเวลา 1 ปีครึ่งแบ่งเป็นการรับรู้รายได้ภายในปี 2563 นี้ ประมาณ 60 % ของโครงการทั้งหมด
“แผนการดำเนินธุรกิจในปี 2563 นี้ บริษัทจะมุ่งเน้นการปรับโมเดลธุรกิจคอนกรีตผสมเสร็จ (Ready Mix) เนื่องจากเทรนด์การก่อสร้างในปัจจุบันใช้ระยะเวลาที่สั้นลง ต้องปรับกลยุทธ์ให้ตรงความต้องการของลูกค้า"
และเน้นการให้บริการในลักษณะ Mobile Plant โดยจัดตั้งแพลนต์ปูนชั่วคราวที่สามารถรื้อถอนได้ ให้บริการเช่ารถขนส่ง ขายคอนกรีต รวมทั้งให้บริการตรวจสอบคุณภาพผงปูน เพื่อเสริมศักยภาพการแข่งขัน เพิ่มความสามารถในการทำกำไร
นอกจากนี้บริษัทยังตั้งเป้าหมายอัตรากำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 5% ซึ่งสูงกว่าปีก่อนที่คาดว่าจะทำได้ไม่ถึง 2% เนื่องจากขณะนี้บริษัทได้ตัดธุรกิจปูนผสมเสร็จที่มีผลขาดทุนออกไปแล้ว และได้มีการขยายฐานลูกค้าไปในหลากหลายอุตสาหกรรม เพื่อทำให้ราคาขายสินค้าปรับตัวดีขึ้น จากกลุ่มปิโตรเคมี กลุ่มทางหลวง การไฟฟ้าและกรมชลประทาน เป็นต้น รวมทั้งจะใช้งบลงทุนราว 60 ล้านบาทเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และปรับปรุงเครื่องจักรเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอีกด้วย
สำหรับสินค้า Precast ยังคงเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์สเปกพิเศษ ออกสินค้านวัตกรรมใหม่อย่างต่อเนื่อง รองรับงานโครงสร้างพื้นฐาน เช่น งานถนน งานสะพาน ขยายฐานลูกค้าไม่จำกัดเฉพาะภาคตะวันออก มุ่งเน้นเข้าประมูลงานทั่วประเทศ ขณะที่สินค้าประเภทบล็อกคอนกรีตสำเร็จรูป เช่น บล็อกปูพื้น กำแพงกันดิน มีความต้องการใช้งานเพิ่มสูงขึ้น
ปัจจุบันมีหน่วยงานหลายแห่งเริ่มนำผลิตภัณฑ์ของบริษัทเข้าไปใช้ในงานด้าน Landscape ในปีนี้บริษัทจะเน้นการทำตลาดผลิตภัณฑ์ในส่วนนี้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ จะมุ่งเน้นการเปิดตลาดใหม่เพื่อขยายฐานลูกค้าและกระจายความเสี่ยง รวมทั้งขยายช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูปผ่านช่องทางการจำหน่ายที่มีประสิทธิภาพเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้ารายย่อยทั่วประเทศ
อนึ่ง บริษัทจะทยอยประมูลงานเข้ามาเพิ่มอีกในอนาคต เพื่อรักษาระดับมูลค่างานในมือ (Backlog) ไว้ไม่ต่ำกว่า 1,800 ล้านบาทในทุกขณะ ซึ่งในปีนี้บริษัทตั้งงบสำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์และปรับปรุงเครื่องจักรเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตไว้ที่ประมาณ 60 ล้านบาท สำหรับเป้าหมายการเติบโตปีนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ไว้ที่ประมาณ 2,800 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้นประมาณ 10% สัดส่วนรายได้มาจากงานภาครัฐ 80% และภาคเอกชน 20%
สำหรับผลประกอบการปีที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทมีรายได้รวม 2,645 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 164 ล้านบาท หรือ 6.6%จากปีก่อนที่มีรายได้ 2,481 ล้านบาท ปี 62 กลุ่มบริษัทมีกำไรสุทธิ 64.15 ล้านบาท พลิกเป็นกำไรจากที่ปีก่อนมีผลขาดทุนสุทธิ 70.62 ล้านบาท ทั้งนี้ผลประกอบการของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นในทุกๆกลุ่ม โดยกลุ่มรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น7.8% เนื่องมาจากปริมาณความต้องการผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูปของโครงการภาครัฐและเอกชนสูงขึ้น และการพัฒนาสินค้าใหม่ออกสู่ตลาด ส่งผลให้ยอดขายปรับตัวเพิ่มขึ้น
สำหรับกลุ่มรายได้จากการให้เช่าและบริการปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 113.9% สาเหตุจากการให้เช่าและบริการรถขนส่งสินค้าประเภทคอนกรีตผสมเสร็จ (Ready-Mixed Concrete) อีกทั้งผลการดำเนินงานของบริษัทย่อย คือ บมจ.สมาร์ทคอนกรีต(SMART) ปรับตัวดีขึ้นมาก
“ภาพรวมผลประกอบการในช่วงไตรมาส 1/63 นี้ เติบโตมากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน และเติบโตมากกว่าไตรมาส 4/62 เป็นผลจากการขยายพื้นที่จำหน่ายสินค้าไปยังภาคใต้และอีสาน รวมทั้งงานโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐานที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องอีกด้วย” นายอาทิตย์ กล่าว ทิ้งท้าย