นายชัยฤทธิ์ สิมะโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ SUSCO เปิดเผยว่า บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าตามแผนงานเปิดสถานีบริการ พร้อมขานรับ ตามที่ภาครัฐ ได้มีมาตรการผ่อนคลายล็อกดาวน์ และจะเปิดประเทศในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 นี้ ทำให้ภาคธุรกิจต่างๆ เริ่มเคลื่อนไหวกิจกรรมมากมาย เพื่อต้อนรับการกลับมาดำเนินชีวิตตามวิถี New Normal โดยซัสโก้นำร่องด้วยการจัดโปรโมชันพิเศษ เพื่อมอบสิทธิประโยชน์และความคุ้มค่าให้กับสมาชิก SUSCO Smart Member ซึ่งขณะนี้ มีสมาชิกจำนวน 1.45 ล้านราย ครอบคลุมทั่วประเทศ 

นอกจากนี้ ซัสโก้ ยังได้ร่วมกับ NocNoc.com แพลตฟอร์มช้อปปิ้งของคนรุ่นใหม่ แหล่งรวมวัสดุและสินค้าตกแต่งบ้าน พร้อมเป็นตัวกลางเชื่อมต่อระหว่าง ผู้ซื้อ-ผู้ขาย-ช่างติดตั้ง ผ่านช่องทางออนไลน์ สามารถเลือกสินค้าได้จากหลากหลายร้านค้า โดยสมาชิก SUSCO Smart Member สามารถใช้สิทธิ์เข้าไปช้อปปิ้ง สินค้าเข้าบ้านกันแบบ ปังๆ กับโปรโมชันที่คุ้มค่า ด้วยการใช้แต้ม SUSCO Smart Member เพียง 500 คะแนน สามารถแลกรับส่วนลดทันที 100 บาท (ช้อปขั้นต่ำ 200 บาท) ทั้งนี้ แลกรับสิทธิพิเศษ ได้ที่ LINE : @SUSCO โดยโปรโมชั่นชุดแรกจะหมดเขตวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 นี้

นอกจากนี้ ยังได้เปิดช่องทางการจ่ายชำระเงินให้กับลูกค้าในยุค New Normal แบบไร้การสัมผัสในหลากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นผ่าน E-Payment ของ Truemoney Wallet, Shopee Pay, Dolfin, จ่ายผ่านแอปพลิเคชันบัตรเครดิต หรือ สแกนจ่ายผ่าน Mobile Banking ก็สะดวกปลอดภัย พร้อมรวมพันธมิตรกลุ่ม Non-Oil ผู้ที่เปิดธุรกิจให้บริการภายในปั๊มน้ำมันซัสโก้ อาทิ ร้านกาแฟ Starbucks, KFC, ร้านสะดวกซื้อ Lawson108, ร้านกาแฟ D’Oro, ร้านรับส่งพัสดุ J&T Express, ไปรษณีย์ไทย, KERRY EXPRESS, ศูนย์บริการด้านรถยนต์ B-Quik, MMS BOSCH SERVICE, Wizard Auto Care และร้านค้าในรูปแบบต่างๆ จะกลับมาเปิดให้บริการเต็มรูปแบบ ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2564 นี้ เป็นต้นไป เชื่อมั่นว่ากลุ่มลูกค้าจะกลับมาใช้บริการกันมากขึ้นอีกครั้ง โดยบริษัทคาดแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 4/64 จะปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน  

เนื่องจากจะมีการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งคาดว่าจะช่วยหนุนการเดินทางทั้งภายในประเทศและต่างประเทศให้กลับมาคึกคัก ซึ่งจะส่งผลดีต่อความต้องการใช้น้ำมัน แม้ราคาน้ำมันจะอยู่ในระดับสูง

รวมถึงในช่วงสิ้นปีนี้ก็จะเป็นช่วงของไฮซีซั่นของการท่องเที่ยวด้วย ทั้งนี้ SUSCO ยังมีแผนขยายสถานีบริการน้ำมันเพิ่มอีก 7 แห่งในช่วงที่เหลือของปีนี้ให้ครอบคลุมพื้นที่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยวางงบลงทุนรวมไว้ราว 100 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลทำให้สิ้นปี 64 จะมีสถานีบริการน้ำมันชองซัสโก้เพิ่มเป็น 255 แห่ง

“เราคาดว่าหากเหตุการณ์ยังคงปกติ ผลงานในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้จะเติบโตได้ดี จากความต้องการใช้น้ำมันที่ฟื้นตัวขึ้น หลังรัฐบาลมีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ และการเปิดประเทศ ซึ่งบริษัทฯได้เตรียมความพร้อมในการให้บริการแก่ลูกค้า ทั้งการปรับปรุงสถานีบริการน้ำมัน ฝึกอบรมพนักงาน เพิ่มความปลอดภัยให้แก่ผู้บริโภคและพนักงาน ภายใต้มาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่สถานีบริการน้ำมันซัสโก้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าที่ใช้บริการ" นายชัยฤทธิ์ กล่าว

นอกจากนี้ การให้บริการน้ำมันท่าอากาศยาน (JET) คาดว่าจะกลับมาดีขึ้นด้วย หลังจากช่วงที่ผ่านมามีการล็อกดาวน์ห้ามสายการบินทำการบิน จากผลกระทบการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างไรก็ตาม ในปลายปีนี้ จะมีสายบินในต่างประเทศเข้ามา ซึ่งก็จะมีลูกค้าของบริษัทด้วย คาดว่าน่าจะได้รับอานิสงส์จากปัจจัยดังกล่าวเช่นกัน ส่วนธุรกิจ Non-oil ก็คาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากการเข้ามาเปิดสาขาของแบรนด์ร้านอาหารดังเช่น KFC, Starbucksเป็นต้น ที่จะทำให้บริษัทฯ มีรายได้จากการเช่ามากขึ้น โดยบริษัทฯ มีแผนเพิ่มสัดส่วนรายได้จากรีเทลให้มากขึ้น ผ่านการหาพาสเนอร์ร้านอาหาร ร้านค้าต่างๆ เข้ามามากขึ้น ซึ่งนอกจากจะได้ผลตอบแทนจากร้านค้าแล้ว ยังช่วยกระตุ้นยอดขายน้ำมันที่สถานีบริการด้วย

สำหรับภาพรวมปี 2564 นี้ บริษัทยอมรับว่าปีนี้อาจจะไม่ได้ดีเมื่อเทียบกับปีก่อนเนื่องจากยังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 แต่ไม่ถึงกับแย่มาก โดยปีที่ผ่านมาบริษัทฯมีรายได้รวมอยู่ที่ 16,777.53 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 217.66 ล้านบาท ขณะที่ครึ่งแรกของปี 2564 บริษัทมีรายได้รวมแล้ว 9,438 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 160.79 ล้านบาท ส่วนแผนการดำเนินงานในปี 2565 เบื้องต้นบริษัทยังคงเดินหน้าขยายสถานีบริการน้ำมันอย่างต่อเนื่อง และขยายร้านค้า-ร้านอาหารในสถานีฯให้มากขึ้นด้วย เนื่องจากบริษัทมีแนวคิดจะเปลี่ยนพื้นที่สถานีบริการน้ำมันไปสู่การเป็นพื้นที่ร้านค้าหรือเป็นแหล่งคอมมูนิตี้ที่จะมีด้วยกันหลายสิ่งในพื้นที่เดียวกัน เพื่อดึงดูดผู้บริโภคเข้ามาใช้บริการ และรองรับการเปลี่ยนแปลงของพลังงานในอนาคตด้วยการเข้ามาของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) อีกด้วย

“แผนในการรุกขยายปั๊มน้ำมันของซัสโก้ ปีนี้ แม้ว่าจะพบกับวิกฤตเศรษฐกิจจากการระบาด Covid-19 แต่ก็ยังเชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจจะฟื้นกลับมา ภายใต้วิถีชีวิตในรูปแบบ New Normal ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจการค้า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว การเดินทางสัญจรด้วยรถยนต์ ดังนั้น จึงเดินหน้าขยายปั๊มน้ำมันตามแผนงานเดิมในโลเคชั่นที่เป็นแหล่งชุมชนเมือง โดยล่าสุดได้เปิดสถานีบริการเพิ่มใหม่สาขาคลองสองต้นนุ่น บนถนนมอเตอร์เวย์ เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร ปัจจุบันซัสโก้ มีจำนวนสาขา 248 สาขา และเตรียมขยายสาขาสถานีบริการน้ำมันอีก 7 สาขา ให้ได้รวมแล้ว 255 สาขาทั่วประเทศ ภายในสิ้นปีนี้” นายชัยฤทธิ์ กล่าวทิ้งท้าย

ทั้งนี้การปรับปรุงและขยายสาขาของซัสโก้นั้น ได้คัดเลือกพันธมิตรและผู้รับเหมาคุณภาพ อาทิ บริษัท เอสจีเอ็ม เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด ซึ่งถือว่าเป็นผู้รับเหมาคุณภาพ ที่มีประสบการณ์ด้านการบริหารงานและก่อสร้างปั๊มน้ำมันคุณภาพด้วยทีมงานมากประสบการณ์อีกด้วย

รับข่าวสารก่อนใคร ฉับใวถึงมือคุณ
เพิ่มเราเป็นเพื่อน แอดไลน์ @610nusdc