IM สื่ออุตสาหกรรม เป็นสื่อสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรม มุ่งเน้นนำเสนอข่าวสารด้านบวก ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ธุรกิจ ด้วยเจตนารมณ์ที่ต้องการสร้างพื้นที่ให้กลุ่ม SMEs ได้มีที่ยืน ได้มีโอกาสได้ใช้ช่องทางเคียงคู่ไปกับผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อให้อุตสาหกรรมไทยได้เติบโตไปพร้อมๆ กัน อย่างยั่งยืน
บริษัท สื่ออุตสาหกรรม จำกัด | 02 11 585 22 | an6n@yahoo.com
นาย โฮ เรน ฮวา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) หรือ TWPC เปิดเผยว่า การดำเนินธุรกิจในปี 2564 นี้ คาดว่าจะฟื้นตัวดีขึ้นจากปีก่อน โดยตั้งเป้าหมายยอดขายเติบโตจาก 3 ธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจแป้งมันสำปะหลังและกลุ่มผลิตผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่ม (HVA) รวมถึงธุรกิจอาหาร คาดว่าจะเติบโตได้ระดับ double digit เนื่องจากตลาดยังมีความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯจึงคาดว่าในปีนี้ความสามารถในการทำกำไรขึ้นต้นดีขึ้นด้วย ซึ่งผลจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ความต้องการแป้งมันสำปะหลังมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดประเทศจีน ส่งผลให้ราคาขายแป้งมันสูงขึ้นตามไปด้วย
จากความต้องการตลาดแป้งมันสำปะหลังที่สูงขึ้น ขณะที่ต้นทุนหัวมันค่อนข้างคงที่ บริษัทฯ จึงได้ขยายตลาดส่งออกไปยังประเทศอินโดนีเซีย และเพิ่มสัดส่วนการขายผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มให้สูงขึ้น เพื่อเพิ่มการทำกำไรขึ้นต้นให้ดีขึ้น
ส่วนธุรกิจอาหารและเส้นก๋วยเตี๋ยว มีแผนจะขยายตลาดไปยังประเทศเวียดนามมากขึ้น โดยบริษัทฯ คาดว่าสัดส่วนการส่งออกในธุรกิจอาหารปี 2564 จะเพิ่มขึ้นมาอยู่ใกล้เคียง 20% จากปีก่อนอยู่ที่ 16% ขณะที่การส่งออกแป้งมันสำปะหลังจะมีสัดส่วน 70 – 80 % โดยประมาณ
นอกจากนี้ ภายในปลายปีนี้บริษัทฯ มีแผนเดินหน้าธุรกิจใหม่ โดยผลิตสินค้าประเภท “ไบโอพลาสติก” (BIO Plastic) ซึ่งเป็นผลผลิตจากพืชผลทางการเกษตร และสามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ 100% เพื่อนำไปใช้ในรูปแบบประเภทสินค้าแพคเกจจิ้งและของใช้สำหรับเกษตรทั่วไป คาดจะมีรายได้ประมาณ 1-2 ล้านเหรียญสหรัฐ พร้อมเตรียมรับรู้รายได้เต็มภายในปี 2565 และได้เตรียมงบการลงทุนประมาณ 300 – 350 ล้านบาท สำหรับซ่อมบำรุงประจำปี และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต รวมถึงเพิ่มกำลังการผลิตผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่ม (HVA) อีกด้วย
ด้าน นางสาว รตินันทน์ วงศ์วัชรานนท์ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กรและพัฒนาความยั่งยืน บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) เปิดเผย เพิ่มเติมว่า ในสถานการณ์ที่ผ่านมาถือว่าโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก แต่สำหรับบริษัทฯเอง ตลาดส่งออกในประเทศจีนและเวียดนามถือว่ายอดขายยังเติบโตในระดับที่สูงเกือบสองเท่าตัว ซึ่งในปี 2564 นี้ บริษัทยังคงรักษาการทำกำไรและบริหารต้นทุนรวมถึงการรักษาทรัพยากรบุคคลของบริษัทฯและไม่มีแผนปลดพนักงานในทุกตำแหน่ง โดยปัจจุบัน TWPC ประกอบไปด้วย 15 Operation และมีการส่งออกไปมากกว่า 30 ประเทศทั่วโลก
“ถึงแม้ว่าโควิด จะมีผลกระทบเป็นมุมกว้างต่อธุรกิจในประเทศไทยและทั่วโลก ส่งผลให้ Stock market ติดลบ แต่สำหรับไทยวา ราคาของ Stock price ยังมีมูลค่าสูง โดยปัจจุบันเรามี 2 ธุรกิจหลักๆ คือ ธุรกิจแป้งมันสำปะหลัง และอาหาร ซึ่งเราได้เพิ่มธุรกิจใหม่ขึ้นมาเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับกลุ่มธุรกิจเดิม คือธุรกิจไบโอพลาสติก คาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ภายในเดือนพฤศจิกายน ปี 2564 นี้”
โดย ธุรกิจไบโอพลาสติก (BIO Plastic) ถือเป็น Specialty Business จากกระแสการอนุรักษ์ลดภาวะโลกร้อน ส่งเสริมให้ลดการใช้พลาสติกที่ย่อยสลายยาก ไทยวาจึงได้พยายามพัฒนาผลิตภัณฑ์ไบโอพลาสติกที่สามารถย่อยสลายได้สมบูรณ์ 100% ใช้งานสะดวก ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สามารถใช้เป็นแพคเกจจิ้งบรรจุอาหาร ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ของเด็กเล่น ฯลฯ โดยเป็นการต่อยอดธุรกิจจากกระบวนการผลิตแป้งมันสำปะหลัง ซึ่งผลิตภัณฑ์นี้เป็นความภาคภูมิใจของบริษัทฯที่สามารถพัฒนาพลาสติกให้ย่อยสลายได้สมบูรณ์เป็นปุ๋ย ดิน ต่อไป
นางสาว รตินันทน์ กล่าวต่อว่า ธุรกิจแป้งมันสำปะหลัง ถือเป็นธุรกิจหลักของบริษัทฯ เน้นตลาดส่งออกประเทศจีนเป็นหลัก แม้จีนจะเข้าสู่สถานการณ์โควิดก่อนทุกประเทศแต่ก็สามารถฟื้นตัวได้เร็วก่อน ส่งผลให้ความต้องการเพิ่มขึ้น ตลาดในจีนของไทยวาจึงเติบโตขึ้นประมาณ 17% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งส่งผลมาจากความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น รวมถึงราคาจำหน่ายที่สูงขึ้นในขณะที่ต้นทุนหัวมันเท่าเดิมนอกจากนี้ในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้เปิดสำนักงานเพิ่มที่ประเทศอินโดนีเซีย เพื่อรองรับฐานตลาดที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย
“ตลาดส่งออกในต่างประเทศ เราใช้แบรนด์ Asian Inspired จำหน่าย ซึ่งการเติบโตดีมาก เช่น เวียดนามเติบโตที่ 154% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งตอนนี้ถือว่าเราติด 1 ใน 5 สินค้าในโมเดิรน์เทรดที่เวียดนามเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากการเริ่มธุรกิจจากศูนย์เมื่อสามปีก่อน ถือว่าคนเวียดนามมีทัศนคติที่ดีต่อสินค้าไทย”
ซึ่งล่าสุดเราได้ซื้อหุ้นเพิ่มในบริษัท ATP ซึ่งเป็นโรงผลิตแป้งที่เวียดนาม และมีแผนเตรียมเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อส่งออกในตลาดเวียดนามเพิ่มมากขึ้นเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคในเวียดนาม
โดยเป้าหมายในปี 5 ปีข้างหน้าต่อจากนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายที่จะเป็น Asian Leaders สู่ Global Consumer Foods Business จากธุรกิจหลักๆ ทั้งแป้งมันสำปะหลัง อาหาร และกลุ่มไบโอพลาสติก ด้วยการพัฒนาและปรับปรุงเทคโนโลยีในกระบวนการผลิตให้ทันสมัยตลอดเวลา เพื่อเพิ่มมูลค่าให้สินค้าก่อนส่งมอบให้ลูกค้าเพื่อความพึงพอใจสูงสุด จากพฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนไป ในยุค New normal เนื่องจากคนนิยมทำอาหารเองที่บ้านมากขึ้น บริษัทฯจึงได้ปรับปรุง SKU ใหม่ๆ ในผลิตภัณฑ์อยู่ตลอดเวลา
ปัจจุบัน สถานะทางการเงินของบริษัทฯ ถือว่าอยู่ในสภาพคล่องที่ดี โดยมีเงินหมุนเวียนอยู่ที่ 1,500 ล้านบาท และคณะกรรมการบอร์ดอนุมัติจ่ายเงินปันผลผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 0.134 บาทต่อหุ้นเท่ากับปีที่แล้วแม้จะเจอสถานการณ์โควิด19 อย่างไรก็ตามสำหรับแผนการลงทุนในปี 2564 นี้ ทางบริษัทฯ จะเน้นลงทุนไปทางด้านการปรับปรุงไลน์การผลิตต่างๆ
สำหรับตลาดในประเทศ ไทยวาได้ขยายไปเกือบ 74 จังหวัดทั่วประเทศ โดยมีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปีนี้ อาทิ ร้อยเอ็ด กรุงเทพฯ อุดรธานี และเชียงใหม่ รวมถึงตลาดในกลุ่มโมเดิร์นเทรดเติบโตค่อนข้างดีอยู่ที่ 12% เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากปีที่แล้วมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่และวางจำหน่ายที่ 7-11 ซึ่งกระแสตอบรับค่อนข้างดีมาก จากเทรนอาหารเพื่อสุขภาพและกลุ่มนิยมการทำอาหารอยู่บ้าน
“ปัจจุบันเรามีจำหน่ายวุ้นเส้นสดใน 7-11 กว่า 7,000 สาขาทั่วประเทศ จากแต่เดิมที่เราขายแต่วุ้นเส้นแห้ง และพยายามเข้าถึงลูกค้าทุกกลุ่มให้มากขึ้นด้วยการเพิ่มช่องทางการสื่อสารต่างๆ ทั้งทาง Social Media และการจัดกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับกลุ่มพันธมิตรที่หลากหลายทุกช่องทางอีกด้วย”นางสาว รตินันทน์ กล่าวทิ้งท้าย