IM สื่ออุตสาหกรรม เป็นสื่อสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรม มุ่งเน้นนำเสนอข่าวสารด้านบวก ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ธุรกิจ ด้วยเจตนารมณ์ที่ต้องการสร้างพื้นที่ให้กลุ่ม SMEs ได้มีที่ยืน ได้มีโอกาสได้ใช้ช่องทางเคียงคู่ไปกับผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อให้อุตสาหกรรมไทยได้เติบโตไปพร้อมๆ กัน อย่างยั่งยืน
บริษัท สื่ออุตสาหกรรม จำกัด | 02 11 585 22 | an6n@yahoo.com
ถึงแม้ราคาน้ำมันในรูปสกุลเงินแรนด์ต่อบาร์เรลจะปรับตัวลง 23% แต่ EBITDA (กำไรก่อนหักค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย) ลดลงเพียง 6% ซึ่งความสำเร็จนี้เป็นผลมาจากต้นทุนทางการเงิน เงินทุนหมุนเวียน และรายจ่ายในการลงทุนที่แข็งแกร่ง ท่ามกลางสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ท้าทาย
กำไรของเราดีขึ้นเพราะรายการปรับค่าที่ไม่ใช่เงินสด ดังนี้
- กำไรจากการแปลงสินทรัพย์ทางการเงินและหนี้สินที่เป็นตัวเงินจำนวน 4.6 พันล้านแรนด์ เนื่องจากการแข็งค่าขึ้น 15% ของอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างสกุลเงินแรนด์กับดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน 2563
- กำไรจากมูลค่าของตราสารทางการเงินและสัญญาอนุพันธ์จำนวน 5.0 พันล้านแรนด์
- กำไร 3.3 พันล้านแรนด์จากการแปลงทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ (FCTR) ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการถอนการลงทุน 50% ในธุรกิจ LCCP Base Chemicals ในสหรัฐอเมริกา
ตัวเลขสำคัญ |
ครึ่งปี 31 ธันวาคม 2563 |
ครึ่งปี 31 ธันวาคม 2562 |
เปลี่ยนแปลง % |
EBIT (ล้านแรนด์) |
21,650 |
9,853 |
>100 |
Adjusted EBITDA[1] (ล้านแรนด์) |
18,608 |
19,839 |
(6) |
Headline earnings (ล้านแรนด์) |
11,858 |
3,670 |
>100 |
Basic earnings per share (แรนด์) |
23.41 |
6.56 |
>100 |
Headline earnings per share (แรนด์) |
19.16 |
5.94 |
>100 |
Core headline earnings per share[2] (แรนด์) |
7.86 |
9.25 |
(15) |
เงินปันผลต่อหุ้น (แรนด์) |
|||
- ระหว่างกาล (แรนด์) |
- |
- |
- |
- สุดท้าย (แรนด์) |
- |
- |
- |
[1] Adjusted EBITDA คำนวณจากการปรับค่า EBIT สำหรับค่าเสื่อมราคาและการตัดจำหน่าย, การชำระเงินโดยใช้หุ้น, รายการที่วัดใหม่, ความเคลื่อนไหวในข้อกำหนดทางสภาพแวดล้อมอันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงอัตราคิดลด, กำไรและขาดทุนที่เกิดจากการแปลงที่ไม่เกิดขึ้นจริงทั้งหมดในตราสารอนุพันธ์และกิจกรรมป้องกันความเสี่ยง ช่วงเวลาเปรียบเทียบได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อรวมผลกำไรและขาดทุนจากการแปลงที่ไม่เกิดขึ้นจริงทั้งหมด และกำไรและขาดทุนที่ไม่เกิดขึ้นจริงทั้งหมดบนตราสารอนุพันธ์และกิจกรรมป้องกันความเสี่ยง เราเชื่อว่า Adjusted EBITDA เป็นมาตรวัดที่มีประโยชน์ในการประเมินกระแสเงินสดของกลุ่มบริษัท อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่เงื่อนไขที่กำหนดไว้ภายใต้ IFRS และอาจเทียบไม่ได้กับเกณฑ์วัดที่คล้ายคลึงกันที่รายงานโดยบริษัทอื่น ๆ (Adjusted EBITDA ประกอบด้วยข้อมูลทางการเงินในรูปแบบของข้อกำหนด JSE Limited Listings Requirements และควรอ่านควบคู่ไปกับข้อมูลพื้นฐานของการจัดเตรียมและข้อมูลทางการเงินตามรูปแบบที่ระบุไว้ในชุดข้อมูลผลประกอบการเฉพาะกาลฉบับสมบูรณ์) [2] กำไรทั่วไปต่อหุ้นที่ได้จากธุรกิจหลัก (Core HEPS) คำนวณจากกำไรทั่วไปต่อหุ้นด้วยรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว เช่น ผลจากการแปลงอัตราแลกเปลี่ยน, ผลกำไรและขาดทุนจากตราสารอนุพันธ์และการป้องกันความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจริงและที่ไม่เกิดขึ้นจริงทั้งหมด, การดำเนินธุรกรรม Khanyisa B-BBEE และการขาดทุนที่เกิดจาก LCCP ในขณะที่ยังอยู่ในช่วงเพิ่มขึ้น ช่วงเวลาเปรียบเทียบได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อรวมผลกำไรและขาดทุนจากการแปลงที่ไม่เกิดขึ้นจริงทั้งหมด และกำไรและขาดทุนที่ไม่เกิดขึ้นจริงทั้งหมดบนตราสารอนุพันธ์และกิจกรรมป้องกันความเสี่ยง (Core HEPS ประกอบด้วยข้อมูลทางการเงินในรูปแบบของข้อกำหนด JSE Limited Listings Requirements และควรอ่านควบคู่ไปกับข้อมูลพื้นฐานของการจัดเตรียมและข้อมูลทางการเงินตามรูปแบบที่ระบุไว้ในชุดข้อมูลผลประกอบการเฉพาะกาลฉบับสมบูรณ์)
|
|||
ข้อมูลตัวเลขสำคัญของเรามีดังต่อไปนี้
- สัดส่วนเงินทุนหมุนเวียน 14.9% เทียบกับ 14.6% ในช่วงเวลาก่อนหน้า การลงทุนในส่วนเงินทุนหมุนเวียนอยู่ที่ 2.73 หมื่นล้านแรนด์
- รายจ่ายในการลงทุนอยู่ที่ 7.5 พันล้านแรนด์
- เงินสดปกติคงที่ลดลง 10% (3.2 พันล้านแรนด์) เมื่อเทียบกับช่วงเวลาก่อนหน้า
- กำไรก่อนหักรายจ่ายดอกเบี้ยและภาษี (EBIT) อยู่ที่ 2.17 หมื่นล้านแรนด์ เทียบกับ 9.9 พันล้านแรนด์ในช่วงเวลาก่อนหน้า
- Adjusted EBITDA ลดลง 6% จาก 1.98 หมื่นล้านแรนด์ในช่วงเวลาก่อนหน้า สู่ระดับ 1.86 หมื่นล้านแรนด์
- กำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน (EPS) เพิ่มเป็น 23.41 แรนด์ต่อหุ้น จากระดับ 6.56 แรนด์ต่อหุ้นในช่วงเวลาก่อนหน้า และ
- Headline earnings per share (HEPS) เพิ่มขึ้นกว่า 100% เป็น 19.16 แรนด์ต่อหุ้น เมื่อเทียบกับช่วงเวลาก่อนหน้า
ผลประกอบการ (ล้านแรนด์) |
EBIT (ล้านแรนด์) |
|||
ครึ่งปี 31 ธันวาคม 2562 |
ครึ่งปี 31 ธันวาคม 2563 |
ครึ่งปี 31 ธันวาคม 2563 |
ครึ่งปี 31 ธันวาคม 2562 |
|
10,348 |
10,807 |
Mining |
1,732 |
1,374 |
2,635 |
1,988 |
Exploration and Production International |
897 |
1,023 |
41,206 |
30,178 |
Energy |
5,098 |
6,743 |
24,642 |
27,409 |
Base Chemicals |
3,624 |
(1,488) |
32,933 |
33,750 |
Performance Chemicals |
1,754 |
1,294 |
-€" |
6 |
Group Functions |
8,545 |
907 |
111,764 |
104,138 |
|
21,650 |
9,853 |
(12,594) |
(12,170) |
Intersegmental turnover |
||
99,170 |
91,968 |
External turnover |
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ |
ครึ่งปี 31 ธันวาคม 2563 |
ทั้งปี 30 มิถุนายน 2563 |
เปลี่ยนแปลง % |
Total assets (ล้านแรนด์) |
397,516 |
479,162 |
(17) |
Total liabilities (ล้านแรนด์) |
236,473 |
319,914 |
26 |
Total equity (ล้านแรนด์) |
161,043 |
159,248 |
1 |
การให้สิทธิผู้ถือหุ้นเดิมจองซื้อหุ้นใหม่
มีการตัดสินใจว่าจะไม่มีการให้สิทธิผู้ถือหุ้นเดิมจองซื้อหุ้นใหม่ โดยพิจารณาจากภาพรวมเศรษฐกิจมหภาคในปัจจุบัน และความคืบหน้าสำคัญของแผนการตอบสนองของเรา
การลดงบดุลจะยังเป็นเรื่องสำคัญลำดับแรก ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าเราจะสามารถดำเนินงานภายใต้ข้อผูกพันทางการเงินของเรา และรักษาสภาพคล่องให้เพียงพอในขณะที่เราเดินหน้าโครงการปฏิรูป Sasol 2.0
การบริหารจัดการงบดุล
เงินสดที่มาจากการดำเนินงานลดลง 40% เหลือ 1.17 หมื่นล้านแรนด์ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาก่อนหน้า ส่วนเงินสดสุทธิในมือลดลงจาก 3.41 หมื่นล้านแรนด์ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2563 เหลือ 2.76 หมื่นล้านแรนด์
แม้กระแสเงินสดของเราจะได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันดิบที่อยู่ในระดับต่ำ ราคาเคมีที่ปรับตัวลง การหยุดทำงานของโรงงาน และผลกระทบของโควิด-19 แต่การสำรองเงินสดและโครงการขายสินทรัพย์จะช่วยให้เราสามารถชำระหนี้ราว 2.8 หมื่นล้านแรนด์ (2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ได้ นอกจากนี้ เราได้ชำระคืนเงินกู้ธนาคารไปแล้วราว 4 พันล้านแรนด์
รายจ่ายในการลงทุนจริงอยู่ที่ระดับ 7.5 พันล้านแรนด์ จากระดับ 2.14 หมื่นล้านแรนด์ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2563 ขณะที่กระแสเงินสดอิสระในช่วงเวลาดังกล่าวอยู่ที่ 400 ล้านแรนด์ จากปัจจัยราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำเฉลี่ย 43.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
เพื่อทำให้งบดุลของ Sasol มีความยืดหยุ่นในช่วงเวลาที่อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนแตะระดับสูงสุด บรรดาผู้ปล่อยกู้ให้กับเราต่างตกลงที่จะเพิ่มอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อ EBITDA จาก 3 เท่าเป็น 4 เท่า (ตามคำจำกัดความของธนาคาร) วัดเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2563 ซึ่งช่วยเพิ่มสภาพคล่องมากขึ้น ภายใต้เงื่อนไขที่สอดคล้องกับกรอบการจัดสรรเงินทุน (เช่น การให้ความสำคัญกับการลดหนี้ผ่านข้อผูกพันในการระงับการจ่ายเงินปันผลและการเข้าซื้อกิจการในขณะที่เลเวอเรจเราอยู่เหนือระดับหนี้สินสุทธิต่อ EBITDA สามเท่า) เรารู้สึกซาบซึ้งกับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากผู้ปล่อยกู้ให้กับเราในช่วงเวลาที่ท้าทายเช่นนี้
หนี้สินสุทธิต่อ EBITDA ของเรา ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 อยู่ที่ 2.6 เท่า (ตามคำจำกัดความของธนาคาร) ซึ่งต่ำกว่าเกณฑ์อย่างมีนัยสำคัญ
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 หนี้สินรวมของเราอยู่ที่ 1.263 แสนล้านแรนด์ จากระดับ 1.897 แสนล้านแรนด์ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2563 ในช่วงเวลาดังกล่าว เรานำรายได้จากการขายสินทรัพย์มาใช้ชำระคืนเงินกู้ในรูปสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงวงเงินสินเชื่อหมุนเวียนส่วนหนึ่ง ซึ่งช่วยลดภาระหนี้สินในรูปสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐลงเกือบ 2.8 หมื่นล้านแรนด์ (2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เหลือ 1.21 แสนล้านแรนด์ (8.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)
จากแผนตอบสนองที่ครอบคลุมและการขายสินทรัพย์ตามที่วางแผนไว้ เราเชื่อว่าจะลดอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อ EBITDA ให้เหลือไม่ถึง 2 เท่า และอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนที่ 30% ภายในปี 2566
อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของเราลดลงจาก 114.5% ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2563 เหลือ 76% ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 โดยเหตุผลหลักเป็นเพราะการชำระคืนเงินกู้ในรูปสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ (20%) และการแข็งค่าของอัตราแลกเปลี่ยนเงินแรนด์เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ (7%)
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 สภาพคล่องของเราสูงเกิน 5.3 หมื่นล้านแรนด์ (3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายสภาพคล่อง 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐที่เรากำหนดไว้ ด้วยเงินทุนในรูปสกุลเงินแรนด์และดอลลาร์สหรัฐที่เพิ่มขึ้นในขณะที่เราให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการ นอกจากนี้ เรายังคงพิจารณาการระดมทุนในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้แน่ใจว่าเราได้ระดมทุนจากแหล่งเงินทุนที่หลากหลายและมีระยะเวลาชำระหนี้ที่สมดุล
เราไม่มีกำหนดชำระหนี้ก้อนใหญ่ก่อนเดือนพฤศจิกายน 2564 ซึ่งเป็นเวลาที่เงินกู้จำนวน 2.2 พันล้านแรนด์ (150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) จะถึงกำหนดชำระ ทั้งนี้ ภายใต้เงื่อนไขการผ่อนผันกับเจ้าหนี้ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2563 นั้น เรายังคงต้องใช้เงินตามแผนเพื่อชำระหนี้ เป็นผลให้เงินจำนวน 1.43 หมื่นล้านแรนด์ (975 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ถูกจัดอยู่ในประเภทหนี้สินระยะสั้น
เรายังคงบริหารจัดการบัญชีงบดุลอย่างกระตือรือร้นด้วยเป้าหมายที่จะรักษาสภาพคล่องที่ดีและบริหารกรอบเวลาชำระหนี้ตามกำหนดอย่างสมดุล
เงินปันผล
ด้วยภาระทางการเงินในปัจจุบันและความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่ยืดเยื้อยาวนาน บอร์ดบริหารเชื่อว่าบริษัทควรระงับการจ่ายเงินปันผล เราคาดว่าบัญชีงบดุลจะกลับมายืดหยุ่นอีกครั้งจากการใช้กลยุทธ์การตอบสนองที่ครอบคลุม
ความคืบหน้าของข้อตกลง Mozambique Production Sharing Agreement (PSA)
เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564 บอร์ดบริหารอนุมัติการตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย (FID) ใน Mozambique PSA โดยโครงการดังกล่าวมีต้นทุนทั้งหมดราว 760 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
โครงการนี้จะสร้างรายได้จากก๊าซในประเทศโมซัมบิกผ่านโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซขนาด 450 เมกะวัตต์ และโรงงานก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ในกรอบเวลาเดียวกัน โดยก๊าซที่ผลิตได้จะส่งออกไปยังแอฟริกาใต้เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานอย่างยั่งยืนของเรา
ความคืบหน้าของ PSA ตอกย้ำยุทธศาสตร์การปฏิรูปด้านก๊าซของ Sasol ด้วยการดึงก๊าซเพิ่มเติมจากพื้นที่ทางใต้ของโมซัมบิกเข้าสู่ห่วงโซ่คุณค่าด้านก๊าซของ Sasol นับตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไป ซึ่งจะเป็นเสาหลักในการจัดการกับความท้าทายด้านความยั่งยืนของ Sasol