IM สื่ออุตสาหกรรม เป็นสื่อสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรม มุ่งเน้นนำเสนอข่าวสารด้านบวก ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ธุรกิจ ด้วยเจตนารมณ์ที่ต้องการสร้างพื้นที่ให้กลุ่ม SMEs ได้มีที่ยืน ได้มีโอกาสได้ใช้ช่องทางเคียงคู่ไปกับผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อให้อุตสาหกรรมไทยได้เติบโตไปพร้อมๆ กัน อย่างยั่งยืน
บริษัท สื่ออุตสาหกรรม จำกัด | 02 11 585 22 | an6n@yahoo.com
นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวภายหลังการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลกรายการ Moto GP สนามที่ 15 PTT Thailand Grand Prix 2018 ระหว่างวันที่ 5 - 7 ตุลาคม 2561 ณ จังหวัดบุรีรัมย์ จากการสำรวจเบื้องต้นของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พบว่า
ในช่วงระยะเวลา 3 วันของ การแข่งขันรถจักรยานยนต์ Moto GP มีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 205,000 คน แบ่งเป็นชาวไทย ประมาณ 153,750 คน คิดเป็นสัดส่วน 75% ของผู้เข้าร่วมงานทั้งหมด โดยเป็นผู้เข้าร่วมงานจากจังหวัดบุรีรัมย์ประมาณ 10,250 คน หรือ 6%
อย่างไรก็ตามขณะที่เป็นผู้เข้าร่วมงานชาวต่างชาติ ประมาณ 51,250 คน คิดเป็น 25% โดยส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติสัญชาติออสเตรเลีย สวิสเซอร์แลนด์ และอังกฤษ ตามลำดับ โดยการแข่งขันรถจักรยานยนต์ Moto GP สามารถสร้างรายได้รวมประมาณ 3,100 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้ ที่เกิดขึ้นในจังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน 2,470 ล้านบาท และพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง เช่น จังหวัดขอนแก่น จังหวัดสุรินทร์ จังหวัดนครราชสีมา รวมจำนวน 630 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามเมื่อแบ่งเป็นการใช้จ่ายในหมวดต่างๆ ได้แก่ ค่าพาหนะการเดินทางจำนวน 764 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 24.70% ค่าอาหารเครื่องดื่ม ประมาณ 679 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 21.90% ค่าที่พัก/โรงแรม จำนวน 642 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 20.70% ค่าซื้อสินค้าและของที่ระลึก จำนวน 517 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 16.70%ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ จำนวน 349 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 11.30% และค่าใช้จ่ายเพื่อความบันเทิง 146 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 4.70% ตามลำดับ
ทั้งนี้ การจัดการแข่งขัน Moto GP สามารถสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจ โดยเป็นมูลค่าผลิตภัณฑ์ มวลรวมภายในประเทศทางตรงประมาณ 1,335 ล้านบาท เป็นมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศทางอ้อม ประมาณ 1,701 ล้านบาท ก่อให้เกิดการจ้างงานใหม่ 7,749 คน โดยเป็นการจ้างงานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว 3,831 คน คิดเป็น 49.44% ของการจ้างงานใหม่ทั้งหมด และคาดว่าภาครัฐจะจัดเก็บรายได้ในรูปแบบภาษี ประมาณ 329 ล้านบาท
นอกจากนี้ ประเทศไทยยังได้ถูกยกระดับเป็น 1 ในจุดหมายปลายทางด้านการแข่งขันจักรยานยนต์ของโลก ผ่านสายตาผู้ชมจากทั่วโลกกว่า 800 ล้านคู่ และคาดว่าปีถัดไป หากประเทศไทยมีการเตรียมความพร้อมในการรับรองผู้ชื่นชอบการแข่งขันจักรยานยนต์ เชื่อว่าประเทศไทยจะได้รับประโยชน์จากการจัดการแข่งขันดังกล่าวเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน