• SPALI โชว์ไตรมาส 3/2565 กวาดรายได้รวมสูงสุดกว่า 11,362 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51% ยอดขายที่รอรับรู้รายได้ อีกกว่า 23,016 ล้านบาท มั่นใจพิชิตรายได้รวมตามเป้า 29,000 ล้านบาท
• ผลงาน 9 เดือนเติบโตโดดเด่น กวาดกำไรสุทธิสูงสุด 6,002 ล้านบาท โตกว่า 43% และรายได้รวมมากถึง 25,455 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37%
• ยอดขาย 9 เดือน ทะลุ 25,025 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41% โค้งสุดท้ายลุยเปิดตัวเพิ่มอีก 11 โครงการ มูลค่า 10,780 ล้านบาท ชูโปรดักส์ใหม่ในทุกทำเลทุกเซกเมนต์

นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ มีผลการดำเนินงานเติบโตดีอย่างต่อเนื่องในทุกไตรมาส สำหรับในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก ทั้งยอดขาย รายได้ และยอดโอนกรรมสิทธิ์ มาจากสัญญาณบวกของตลาดอสังหาริมทรัพย์กลับมาฟื้นตัวและมีแนวโน้มที่ดีตั้งแต่ช่วงต้นปี รวมทั้งมาตรการของภาครัฐและสถาบันการเงินที่เข้ามาช่วยสนับสนุนการตัดสินใจซื้อของลูกค้า บริษัทฯ ยังมีแผนเพิ่มสัดส่วนการเปิดตัวโครงการใหม่โดยเฉพาะสินค้าแนวราบครอบคลุมทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด และยังมีสินค้าสร้างเสร็จรอโอนกรรมสิทธิ์พร้อมอยู่อีก 23,016 ล้านบาท ควบคู่ไปกับแผนการโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดี

ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นและกำลังซื้อของลูกค้า ส่งผลให้ผลประกอบการไตรมาส 3/2565 เติบโตโดดเด่น โดยสามารถกวาดรายได้รวมสูงถึง 11,362 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2564 เป็นรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด 11,068 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50% โดยแบ่งเป็นรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์โครงการแนวราบ 47% และคอนโดมิเนียม 53%  ซึ่งเชื่อมั่นว่าบริษัทฯ สามารถทำผลงานถึงเป้ารายได้ที่ตั้งไว้ 29,000 ล้านบาท

โครงการ ‘Supalai Pride บางนา-ลาดกระบัง’ บ้านหลากสไตล์หลายฟังก์ชันจากศุภาลัย ที่มีพื้นที่สีเขียวรวมกว่า 5 ไร่ มีสวนส่วนกลางขนาดใหญ่ 3 จุด ภายในสวนตกแต่งมาได้ร่มรื่นมีทั้งต้นไม้ใหญ่ ไม้พุ่ม ไม้ดอก มีสนามหญ้าโล่งๆไว้ทำกิจกรรมต่างๆ พร้อมพื้นที่นั่งพักผ่อนและสนามเด็กเล่น มีทางเดินเชื่อมต่อรอบสวนไว้เดินเล่นหรือวิ่งออกกำลังกาย และ Pets Park พื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยง

ทั้งนี้ สัญญาณบวกจากการฟื้นตัวของยอดผู้เข้าชมโครงการมีอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ในกลุ่มสินค้าแนวราบและคอนโดมิเนียมเป็นไปตามแผนที่ตั้งไว้ โดยมีการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ พร้อมแบบบ้านใหม่ ฟังก์ชันใหม่ กับโครงการแนวราบอย่างศุภาลัย ทัสคานี ดอนแก้ว - แม่ริม โครงการ   สุดหรูสไตล์อิตาลี ท่ามกลางขุนเขา หนึ่งในทำเลที่ดีที่สุดของอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ และโครงการคอนโดมิเนียมแบรนด์ลอฟท์ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบสไตล์ลอฟท์ 2 โครงการ คือ ศุภาลัย ลอฟท์ สถานีภาษีเจริญ และ ศุภาลัย ลอฟท์ รัชดาฯ - วงศ์สว่าง ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากลูกค้า ส่งผลให้บริษัทฯ ทำผลงานได้เกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 

สามารถทำผลงานได้ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ทั้งยอดขาย รายได้ และยอดโอนกรรมสิทธิ์ โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่โครงการแนวราบและคอนโดมิเนียมที่กระจายไปในหลายทำเลมีการเติบโตดีมาก

บริษัทฯ สามารถทำผลงาน 9 เดือน ด้านกำไรสุทธิ 6,002 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2564 ส่งผลให้อัตราหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ระดับ 54% และมีการบริหารจัดการกระแสเงินสด โดยมียอดขายที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ประมาณ 23,016 ล้านบาท ณ 30 กันยายน 2565 โดยคาดว่าจะสามารถทยอยโอนให้ลูกค้าและรับรู้เป็นรายได้ในปี 2565 จำนวน 7,267 ล้านบาท และส่วนที่เหลือ 15,749 ล้านบาทในปี 2566 และ 2567 เพื่อรองรับการเติบโตด้านรายได้ของบริษัทฯ ในอนาคต โดยในช่วง 9 เดือนมีโครงการคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จพร้อมส่งมอบโครงการให้ลูกค้ารวมทั้งสิ้น 7 โครงการ รวมมูลค่า 17,920 ล้านบาท ยังคงได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า

โดยในช่วง 9 เดือน ปี 2565 มีการเปิดตัวโครงการใหม่แล้ว ทั้งหมด 20 โครงการ ในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด ซึ่งเป็นโครงการแนวราบ 18 โครงการ และโครงการคอนโดมิเนียม 2 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 26,620 ล้านบาท บริษัทฯ ยังคงรักษาการเติบโตที่ยอดเยี่ยมในทุกกลุ่มที่อยู่อาศัย โดยมาจากการตอบรับที่ดีของลูกค้าในทุกทำเลโครงการที่มีสินค้าสร้างเสร็จพร้อมอยู่  รวมถึงโครงการที่เปิดตัวใหม่ สามารถทำยอดขายรวม 9 เดือน อยู่ที่ 25,025 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41% จากช่วงเดียวกันของปี 2564 ที่มียอดขาย 17,796 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นสัดส่วนยอดขายคอนโดมิเนียม 7,831 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 103% จากช่วงเดียวกันของปี 2564 รวมทั้งการที่ลูกค้าให้การตอบรับคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ (Ready to Move in) พิ่มขึ้นจากปีที่แล้วสูงถึง 130% และยอดขายสินค้าแนวราบ 17,194 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% จากช่วงเดียวกันของปี 2564 ซึ่งคาดว่าบริษัทฯ มีโอกาสที่ทำยอดขายในปี 2565 ได้สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้

นายไตรเตชะ กล่าวต่อว่า สำหรับไตรมาส 4 บริษัทฯ ลุยเปิดโครงการใหม่ทั้งคอนโดมิเนียมและแนวราบอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า ซึ่งจะช่วยหนุนยอดขายให้เติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ สำหรับคอนโดมิเนียมแบรนด์ใหม่ วิวทะเลใจกลางเมืองหัวหิน “ศุภาลัย บลูเวล หัวหิน” คอนโดฯ High Rise สูง 28 ชั้น มาพร้อมรูปแบบห้องที่หลากหลาย Studio - 3 Bedrooms จัดเต็มเฟอร์นิเจอร์ยกเซ็ต มีระเบียงส่วนตัว รับลม แบบ Panoramic View ทุกยูนิต บนทำเลถนนเส้นหัวหิน - ห้วยมงคล ตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการซื้อเพื่อพักอาศัยและเพื่อการลงทุน ในราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท พร้อมเปิดจองรอบ Online Booking วันที่ 18 พ.ย. 2565 และเปิดขายรอบ Pre-Sale วันที่ 26 - 27 พ.ย. 2565  ณ สำนักงานขาย โครงการศุภาลัย บลูเวล หัวหิน

บริษัทสร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญด้านยอดขายที่มีตัวเลขเติบโตแข็งแกร่ง โดยมีปัจจัยบวกจากกลยุทธ์การขายด้วยการเพิ่มสินค้าใหม่และสร้างความแตกต่าง การบริหารจัดการให้มีสินค้าพร้อมขาย รวมถึงการโอนกรรมสิทธิ์อย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากความต้องการที่อยู่อาศัยในทุกระดับราคาของลูกค้าที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะตลาดระดับกลาง ราคา 4-6 ล้านบาท และตลาดระดับบนขึ้นไป ยังคงได้รับการตอบรับที่ดี สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นและกำลังซื้อลูกค้าเริ่มฟื้นตัว ปัจจุบันศุภาลัยจ้างแรงงานในอัตราที่สูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำอยู่แล้ว ดังนั้น ไม่ได้แปลว่าฐานค่าแรงที่ปรับขึ้นจะกระทบกับต้นทุนของบริษัท หรืออาจมีผลกระทบบ้าง แต่ก็ไม่ได้อยู่ในสัดส่วนเดียวกันกับที่ภาครัฐเตรียมจะปรับขึ้นค่าแรง จึงไม่สามารถบอกได้ว่าค่าแรงจะปรับขึ้นไปที่เท่าไร และผลกระทบที่เกิดขึ้นจะเป็นกี่เปอร์เซ็นต์

แบบบ้าน "ศุภจิตรา" เริ่ม ? ล้านกว่าบาท บ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ที่รังสรรค์พื้นที่ใช้สอยได้อย่างลงตัวสะท้อนรสนิยมของผู้อยู่อาศัย เน้นเรื่องการประหยัดพลังงาน และความโปร่ง เพื่อเปิดรับแสงและลมธรรมชาติได้อย่างลงตัว ยกระดับคุณภาพของชีวิต มอบเป็นรางวัลของความสำเร็จในชีวิตให้ครอบครัวคุณ

“ช่วงที่เกิดภาวะเงินเฟ้อและราคาน้ำมันแพง ส่งผลกระทบต่อต้นทุนค่าก่อสร้าง และมีผลต่อการปรับขึ้นราคาที่อยู่อาศัยในแต่ละโครงการไม่เท่ากัน ซึ่งลูกค้าเข้าใจดีว่าเป็นต้นทุนใหม่ และเข้าใจดีว่าวัสดุก่อสร้างต่าง ๆ ปรับขึ้นราคา ลูกค้าจึงไม่ได้กังวลที่จะต้องจ่ายราคาบ้านที่สูงขึ้น แต่ถ้าเป็นโครงการที่ยอดขายไปได้ช้า ผู้ประกอบการก็อาจต้องยอมลดกำไรลงไปบ้าง” นายไตรเตชะ กล่าว

โครงการ "ศุภาลัย ปาล์มสปริงส์ บึงแก่นนคร" บ้านเดี่ยวหรู ความสมบูรณ์แบบของชีวิต ที่สุดแห่งทำเลที่คุณครอบครองได้ พบกับแบบบ้านดีไซน์ใหม่ Style Tropical บนทำเลศักยภาพ ริมบึงแก่นนคร

ประกอบกับยุคโควิด 2 ปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบการบางรายเร่งระบายสต๊อกบ้านและคอนโดฯ พร้อมอยู่ออกไปมากแล้ว ข้อดีของสต๊อกสินค้าสร้างเสร็จแต่ยังขายไม่ออกคือ เป็นต้นทุนค่าก่อสร้างเดิม ทำให้สามารถขายในราคาเดิมได้ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการมีการปรับกลยุทธ์รับมือต้นทุนที่พุ่งสูงขึ้น เช่น ปรับลดพื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน หรือตัดลดบางรายการสินค้าออกไป เช่น เทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ติดตั้งเสริมมาในบ้าน โดยพบว่าผู้ประกอบการมีการออฟเฟอร์ให้น้อยลงเมื่อเทียบกับยุคก่อนโควิด เนื่องจากเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างเร็ว โดยแนวโน้มครึ่งปีหลัง ผู้ประกอบการเริ่มเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะคอนโดฯ และมียอดขายดีขึ้นจากปี 2564 ค่อนข้างชัดเจน ดังนั้น ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจึงไม่ได้กระทบกับตลาดมากนัก

Supayada (ศุภญาดา) : บ้านแฝด 3 ชั้นครึ่ง พื้นที่ใช้สอย 390 - 462 ตร.ม. 4 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 2 ห้องเอนกประสงค์ 1 ห้องทำงาน 2 ห้องรับแขก 4-5 ที่จอดรถ เริ่มต้น 29.29 ล้าน

“ปีนี้จะเป็นปีที่ท้าทายของภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัทฯ มั่นใจสามารถรับมือกับความผันผวนของสถานการณ์ได้ และสามารถปรับแผนกลยุทธ์ที่รวดเร็ว ด้วยสถานะทางการเงินแข็งแกร่ง พร้อมส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ   ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า รวมทั้งขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและการจัดการพลังงานอย่างยั่งยืนต่อไป” นายไตรเตชะกล่าวทิ้งท้าย

รับข่าวสารก่อนใคร ฉับใวถึงมือคุณ
เพิ่มเราเป็นเพื่อน แอดไลน์ @610nusdc