IM สื่ออุตสาหกรรม เป็นสื่อสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรม มุ่งเน้นนำเสนอข่าวสารด้านบวก ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ธุรกิจ ด้วยเจตนารมณ์ที่ต้องการสร้างพื้นที่ให้กลุ่ม SMEs ได้มีที่ยืน ได้มีโอกาสได้ใช้ช่องทางเคียงคู่ไปกับผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อให้อุตสาหกรรมไทยได้เติบโตไปพร้อมๆ กัน อย่างยั่งยืน
บริษัท สื่ออุตสาหกรรม จำกัด | 02 11 585 22 | an6n@yahoo.com
นายสมชาย บุลสุข ประธานกรรมการ บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) หรือ SGC เปิดเผยว่า การดำเนินธุรกิจในปี 2564 บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าเพิ่มช่องทางการเข้าถึงผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น รวมทั้งการพัฒนาและนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ด้านสุขภาพและการเป็นอยู่ที่ดี ซึ่งเป็นเทรนด์สินค้าที่ตรงต่อความต้องการของผู้บริโภคในยุคนี้ เพื่อรักษาผลประกอบการเชิงบวก รวมทั้งบรรลุเป้าหมายการสร้างผลกำไรและการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยปี 2563 ที่ผ่านมา เป็นปีแห่งความท้าทายที่ส่งผลกระทบไม่เพียงแค่เสริมสุข แต่ผู้คนและเศรษฐกิจทั่วโลกจากวิกฤตการณ์โควิด-19 ซึ่งส่งผลอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ต้นปี 2563 ถึงปัจจุบัน ซึ่งบริษัทฯได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจและการใช้ชีวิตประจำวัน เพื่อรองรับชีวิตปกติใหม่ ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 บริษัทฯ ปรับตัวโดยมีแผนเตรียมพร้อมรับมือ ทั้งการจัดการด้านผลิตภัณฑ์และจัดส่งสินค้าให้เพียงพอต่อ ความต้องการและอำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภค
ด้วยการเพิ่มจุดกระจายสินค้าให้เข้าถึงผู้บริโภคในชุมชนต่าง ๆ ผ่านรถหน่วยขาย การหาช่องทางการขายใหม่เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงน้ำดื่มที่สะอาด ได้โดยไม่ต้องเสี่ยงเดินทางไปไกลจากบริเวณที่พักอาศัย
รวมถึงการลดต้นทุนและค่าใช้จ่าย พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับพนักงาน ที่ทำหน้าที่จัดส่ง สินค้าให้แก่ผู้บริโภคและร้านค้า ด้วยการนำ มาตรการ ต่างๆ มาใช้เพื่อป้องกัน สร้างความมั่นใจ และลดความกังวลใจ ในการดำเนินงานดังกล่าว
นอกจากการปรับแผนธุรกิจเพื่อรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 แล้ว บริษัทยังดำเนินธุรกิจตามกลยุทธ์หลักที่ผลักดันให้ธุรกิจ ยังเติบโตอยู่ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 และกลับมาแข็งแกร่ง ประสบความสำเร็จกว่าเดิม ไม่ว่าจะเน้นการขายผลิตภัณฑ์ที่ตรงตามความต้องการของผู้บริโภคแต่ละกลุ่ม รวมทั้งการเพิ่มการขายผลิตภัณฑ์ประเภทขวดแก้ว ที่ช่วยในเรื่องต้นทุนด้วยการนำกลับมารีไซเคิลเพื่อเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย นอกจากนี้ยังมุ่งจัดจำหน่ายในช่องทางขายที่สร้างกำไร ได้แก่ ช่องทางร้านค้าดังเดิมและร้านอาหารทั่วประเทศ ไปพร้อมๆกับการลดค่าใช้จ่ายและสร้างประสิทธิภาพการทำงานในทุกหน่วยธุรกิจ พร้อมกันนี้บริษัทฯ ได้พัฒนาและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบโจทย์เทรนด์สุขภาพและตอบรับชีวิตปกติใหม่จากสถานการณ์ โควิด-19 ด้วย
รวมถึงได้นำเสนอผลิตภัณฑ์น้ำตาลน้อยเพื่อสุขภาพ รวมทั้งผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มคุณประโยชน์เสริมการเป็นอยู่ที่ดี รวมทั้งเสริมความแข็งแกร่งด้านการทำการตลาดและจัดจำหน่ายอย่าง มีประสิทธิภาพให้กับผลิตภัณฑ์น้ำดื่มคริสตัล สำหรับการดำเนินธุรกิจในปี 2564 บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าเพิ่มช่องทางการเข้าถึงผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น รวมทั้งการพัฒนาและนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ด้านสุขภาพและการเป็นอยู่ที่ดี ซึ่งเป็นเทรนด์สินค้าที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคในยุคนี้ ด้วยพันธกิจ “เสริมสุข เติมสุขทุกโอกาส ตั้งมั่นพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อเติบโตอย่างยั่งยืน”
บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อร่วมสร้างเศรษฐกิจแข็งแรงและส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย นอกจากนี้ยังดำเนินการสอดคล้องและสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยังยืนแห่งสหประชาชาติ (United Nations Sustainable Development Goals: UN SDGs) ในปี 2564 นี้ นับเป็นปีที่ท้าทายเป็นอย่างยิ่ง ด้วยแนวโน้มและสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ส่งผลให้ทางบริษัทจะต้องติดตามและวิเคราะห์ปรับทิศทางกลยุทธ์เพื่อเตรียมรับมือได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในวิกฤตการณ์การแพร่ระบาด ของโควิด-19 ที่กระทบเป็นวงกว้างต่อทั้งบริษัทฯ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย
โดยบริษัทฯ ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจ เพื่อเปลี่ยนผ่านสู่ความปกติใหม่ และเพื่อสร้างความมั่นใจต่อทุกคน เริ่มตั้งแต่กระบวนการผลิตอาหารจะต้องมีความปลอดภัยในทุกขั้นตอน ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง กระบวนการจัดส่งสินค้าจะต้องเพียง พอต่อความต้องการและอำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภค ด้วยการ เตรียมความพร้อมและดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ จึงมั่นใจได้ว่า แม้จะมีเหตุการณ์อันไม่คาดคิดหรือความเสี่ยงใดเกิดขึ้น บริษัทฯ จะสามารถพัฒนาองค์กรเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนได้ อย่างต่อเนื่องจากการดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคมเพื่อการพัฒนา ที่ยั่งยืนในปี 2563
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้รับการรางวัล CSR–DIW Continuous Award ปี 2563 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 12 จากกรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม และมีพิธีรับมอบโล่รางวัล เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2563 จากอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม โดยรางวัล CSR-DIW (Corporate Social Responsibility, Department of Industrial Works) เป็นโครงการที่ บมจ.เสริมสุข ทั้ง 5 โรงงาน ได้เข้าร่วมโครงการกับกรมโรงงานอุตุ สาหกรรม นับตั้งแต่ปี 2552 จนถึงปัจจุบันปี 2563 เป็นการรับรองการดำเนินงานด้านความรับผิดชอบ ต่อสังคมที่มีการพัฒนาสอดคล้องตามแนวทาง Sustainability Development หรือการพัฒนาที่ยั่งยืนครอบคลุมประเด็น ทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ผ่านการดำเนินงานใน 7 หัวข้อหลัก คือ การกำกับดูแลองค์กรสิทธิมนุษยชน การปฏิบัติด้านแรงงาน สิ่งแวดล้อม การดำเนินงานอย่างเป็นธรรม ผู้บริโภค การมีส่วนร่วม และการพัฒนาชุมชน เพื่อให้การประกอบกิจการ อุตสาหกรรมได้รับความไว้วางใจจากภาคประชาชน และผู้มีส่วนได้ ส่วนเสียทุกกลุ่ม มีการยอมรับและสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืนซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของบริษัทคือ “เสริมสุข เติมสุขทุกโอกาส”
ด้าน นายโฆษิต สุขสิงห์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) หรือ SSC เปิดเผยเพิ่มเติมว่า เสริมสุขมุ่งมั่นและยึดมั่นต่อความปลอดภัยและคุณภาพของสินค้า เน้นการพัฒนาและจัดจำหน่ายสินค้าที่หลากหลายและตอบสนองต่อ ความต้องการของผู้บริโภค ด้วยความแข็งแกร่งในฐานะบริษัทในเครือไทยเบฟ ทำ ให้เสริมสุขได้นำองค์ความรู้และนวัตกรรมเพื่อนำมาใช้ต่อยอดในการดำเนินธุรกิจ ในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มได้อย่างมีศักยภาพ ทำให้สามารถสร้างการเติบโตและต่อยอดธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องและเปิดสายการผลิตผลิตภัณฑ์ วี-บูสท์ ณ โรงงานเครื่องดื่ม แรงเยอร์ จากกระแส รักสุขภาพและความ ต้องการมีโภชนาการที่ดีขึ้น ทำให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่เลือกบริโภคเครื่องดื่มและอาหารเพื่อสุขภาพ อาทิ เครื่องดื่มมีปริมาณน้ำตาลน้อย เครื่องดื่มไม่มีน้ำตาล และเครื่องดื่มแคลอรี่ต่ำ เป็นต้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการแข่งขันในตลาดเครื่องดื่มฟังก์ชันนัลดริงก์ เสริมสุขในฐานะบริษัทในเครือไทยเบฟ ได้เปิดสายการผลิตเครื่องดื่มเพื่อ สุขภาพ อย่างผลิตภัณฑ์วี-บูสท์ ณ โรงงานเครื่องดื่มแรงเยอร์ จังหวัดนครปฐม โดย วี-บูสท์ เป็นเครื่องดื่ม ผสมวิตามินที่เสริมประโยชน์ 2 ต่อ ปกป้อง 2 เท่า จากส่วนผสมของเบต้ากลูแคนและ วิตามินซีและเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีระดับปริมาณน้ำตาลตามข้อกำหนดการรับรองสัญลักษณ์ทางเลือกสุขภาพ (Healthier Choice)
ล่าสุดบริษัทฯ ได้ขยายกำลังการผลิตน้ำดื่มที่จังหวัดอุบลราชธานี ผสานนวัตกรรมล่าสุดจากประเทศเยอรมนี และเทคโนโลยีอัตโนมัติจากเบฟเทคทำให้เป็นสายการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อตอบรับความต้องการน้ำดื่ม "คริสตัล" ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริษัทได้ขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 1 แห่ง ที่อำเภอสว่างวีระวงศ์ จังหวัดอุบลราชธานี ด้วยกำลังการผลิต 1.2 ล้านลังต่อเดือน นับเป็นอีกหนึ่งสายการผลิตแห่งใหม่ ที่บริษัทฯ มุ่งมั่นในการเติมความสุขและความสดชื่นให้กับผู้บริโภคชาวอีสาน ผ่านการขยายสายการผลิตน้ำดื่มคริสตัลให้เพียงพอต่อความต้องการและครอบคลุมทั่วประเทศโดยเฉพาะภาคตะวันออก เฉียงเหนือตอนใต้ (R3)
โดยสายการผลิตแห่งนี้มีการนำนวัตกรรมจากเบฟเทค บริษัทในเครือไทยเบฟ ผู้คิดค้น วิจัย และพัฒนา เทคโนโลยีการผลิตเครื่องจักรและหุ่นยนต์ มาผสานกับเทคโนโลยี กระบวนการผลิตที่ใช้เครื่องจักรทันสมัยล่าสุด ECO Model นำเข้ามาจากประเทศเยอรมนี ส่งผลให้เป็นสายการผลิตที่มี ประสิทธิภาพการผลิตสูง ใช้พลังงานในการผลิตต่ำไม่สร้าง มลภาวะจากกระบวนการผลิต รวมทั้งใช้ระบบ Wastewater Zero Discharge ในการบริหารจัดการน้ำเพื่อให้ใช้ประโยชน์ได้ อย่างคุ้มค่ามากที่สุด โดยมีการนำน้ำที่เหลือจากกระบวนการผลิต กลับมาใช้หมุนเวียนภายในโรงงาน จึงเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และชุมชนซึ่งเป็นสิ่งที่บริษัทตระหนักและให้ความสำคัญสูงสุด มาอย่างต่อเนื่อง
สำหรับน้ำดื่มคริสตัลรับรางวัล No.1 Brand Thailand 2019-2020 ประเภท Natural Water ตอก ย้ำ แบรนด์น้ำดื่มคุณภาพยอด นิยมของคนไทยเป็นปี ที่ 3 อย่าง ต่อเนื่องวันที่ 30 กรกฎาคม 2563 น้ำ ดื่มคริสตัลน้ำดื่มคุณภาพตัวจริงที่คนไทยเจาะจงดื่ม นำโดยนายณฤพล พงษ์พานิช ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและ ผู้จัดการเทรดมาร์เก็ตติ้ง บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) เป็นตัวแทนขึ้น รับรางวัล No.1 Brand Thailand 2019-2020 (แบรนด์ยอด นิยม อันดับ 1 ของประเทศไทย) หมวด สินค้า Natural Water เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน จากนิตยสาร มาร์เก็ตเธียร์ตอกย้ำความเป็นแบรนด์ น้ำ ดื่ม คุณภาพที่คนไทย ทั่วประเทศไว้วางใจ โดยตลอดเวลาในการดำเนินธุรกิจ ที่ผ่านมา คริสตัลมุ่งเน้นใส่ ใจในเรื่อง คุณภาพผลิตภัณฑ์มาตลอด เริ่มตั้งแต่ ต้นทางจนถึงมือ ผู้บริโภค “พิถีพิถัน ทุกขั้น ตอนก่อน ถึงมือคุณ” ซึ่งสะท้อน ถึงความมุ่งมั่นและการ ไม่ยอมอ่อน ข้อกับ คุณภาพของน้ำดื่มคริสตัลรวมถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจที่ยึดหลักคำนึงถึงการพัฒนาอย่างยั่งยืน ที่พร้อมตอบโจทย์ถึงความห่วงใยและใส่ใจในทุกกิจกรรมการดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสังคมและสิ่งแวดล้อม เพราะธุรกิจจะยั่งยืนได้ สังคมและสิ่งแวดล้อม ต้องยั่งยืนปรับโฉมเครื่องดื่มชู กำลังแรงเจอร์ ด้วยสโลแกน “ใส่สุดแรง” สร้างความสด ชื่นพร้อม บำรุงระบบประสาท และสมอง
โดย 5 โรงงานของ บริษัท เสริมสุข จำกัด(มหาชน) ได้พัฒนายกระดับมาตรฐาน FSSC 22000 V.5.0 & ISO 22000:2018 ด้วยคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ที่ส่งมอบสู่ผู้บริโภค เป็นเรื่องสำคัญสูงสุดของบริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) ที่ตระหนักและให้ความสำคัญอย่างเข้มงวด บริษัทจึงนำมาตรฐาน สากลระบบการจัดการความปลอดภัยด้านอาหาร “ISO 22000 Food Safety” และ “FSSC 22000 Food Safety System Certificate” มาปฏิบัติใช้กับทุก โรงงานของบริษัทฯ ตั้งแต่ปี 2559 และปี 2560 ตามลำดับ เพื่อการพัฒนาและยกระดับมาตรฐานสากลทั้ง 2 มาตรฐาน ปี 2563 บริษัทได้ดำเนินการยกระดับระบบการจัดการ ความปลอดภัยด้านอาหารของทุกโรงงานให้ทันสมัย มีการปฏิบัติ สอดคล้องตามข้อกำหนดมาตรฐานฉบับใหม่ เพื่อคุณภาพและ ความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์สูงสุด โดยยกระดับเป็นมาตรฐาน สากล “FSSC 22000 Food Safety System Certificate Version 5.0” และ “ISO 22000 Food Safety Version 2018” พร้อมได้รับการรับรองสมบูรณ์และครบถ้วนทุกโรงงาน จาก บจ. SGS (Thailand) เป็นการยืนยันถึงความตั้งใจและ มุ่งมั่นของบริษัทฯ ในฐานะผู้นำบริษัทเครื่องดื่ม เพื่อรองรับ การมีสุขภาพดีของทุกคนในสังคม
นอกจากนี้โรงงานนครราชสีมา ได้รับประกาศนียบัตรในโครงการสถานประกอบการต้นแบบดีเด่น ด้านความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานระดับจังหวัด โดย นายประยูร พิมพ์อักษร หัวหน้าหน่วยความปลอดภัยและทีมงานความปลอดภัยโรงงานนครราชสีมา เข้ารับมอบประกาศนียบัตร จากนายวิเชียร จันทร์โณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา โดยเสริมสุขโรงงานนครราชสีมาได้ผ่านการประเมินเป็นบริษัท ที่ดำเนินการกิจกรรมด้านความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง จากการลดอุบัติเหตุและไม่มีอุบัติเหตุถึงขั้นหยุดงาน รวมทั้งไม่มีพนักงานเสียชีวิตในการดำเนินงานในปีนรางวัลนี้เป็นความสำเร็จในการบริหารงานความปลอดภัยในโรงงานของเสริมสุขในปีที่ผ่านมา ซึ่งเรายังมีกิจกรรมด้านความปลอดภัยต่อยอดการดำเนินการด้านความปลอดภัย เพื่อมุ่งสู่ Zero Accident อย่างต่อเนื่อง
สำหรับกลยุทธ์การตลาดของบริษัทเน้นการแข่งขันในตลาดเครื่องดื่มสำหรับผู้บริโภคทั่วไป โดยมีกลุ่มลูกค้าเป็นกลุ่มร้านค้าและร้านอาหารตั้งแต่ระดับเล็กจนถึงขนาดใหญ่ รวมกว่า 240,000 แห่ง ทั่วประเทศ ทั้งนี้ บริษัทมุ่งดำเนินงานภายใต้แนวคิด Growing Sustainably, Rising Towards Digital Future อันได้แก่
- Brands & Reach: สร้างโอกาสในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และตรำสินค้าใหม่ ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค พัฒนาช่องทำงการขายและจัดจำหน่ายที่ทรงประสิทธิภาพ โดยการปรับเปลี่ยนวิถีการทำงานสู่รูปแบบดิจิทัล เพื่อจัดส่งสินค้าให้ถึงมือผู้บริโภคได้อย่ำงทันที
- Production and Supply Chain Excellence: เสริมความแข็งแกร่งของการเชื่อมต่อรากฐานการผลิต ของบริษัท กับเครือข่ายโลจิสติกส์ขนาดใหญ่ของกลุ่มไทยเบฟฯ เข้ำด้วยกัน พร้อมทั้งนำเทคโนโลยี ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) มาใช้วิเคราะห์และพัฒนาระบบการผลิตและกระจำยสินค้า
- Sustainability: ใส่ใจในการบริหำรและพัฒนาห่วงโซ่คุณค่ำ (Value Chain) เริ่มตั้งแต่การจัดซื้อวัตถุดิบ ตลอดจนการบริหารจัดการบรรจุภัณฑ์หลังจากการบริโภค เพื่อตอบโจทย์ผู้มีส่วนได้เสีย ไม่ว่าในด้านการบริหารจัดการ สิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ สังคม ชุมชน รวมทั้งการมีส่วนร่วมใน การผลักดันและพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็ง ตลอดจนส่งเสริมการพัฒนาบุคลากร และสร้างวัฒนธรรมองค์กรเพื่อการพัฒนาความยั่งยืนในทุกมิติ