IM สื่ออุตสาหกรรม เป็นสื่อสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรม มุ่งเน้นนำเสนอข่าวสารด้านบวก ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ธุรกิจ ด้วยเจตนารมณ์ที่ต้องการสร้างพื้นที่ให้กลุ่ม SMEs ได้มีที่ยืน ได้มีโอกาสได้ใช้ช่องทางเคียงคู่ไปกับผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อให้อุตสาหกรรมไทยได้เติบโตไปพร้อมๆ กัน อย่างยั่งยืน
บริษัท สื่ออุตสาหกรรม จำกัด | 02 11 585 22 | an6n@yahoo.com
นายทัตซึยะ โนซากิ (กลาง) ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงปลายปี 2565 นี้เศรษฐกิจโลกโดยรวมกำลังฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้ยอดขายของบริษัทยามาฮ่ามอเตอร์ทั่วโลก ในไตรมาสแรกนั้น เติบโต 8.5% จากปีที่ผ่านมา เป็นผลมาจากยอดขายรถจักรยานยนต์ที่เพิ่มขึ้น จากยอดในประเทศไทยและประเทศกลุ่มอาเซียน อีกทั้งยอดขายผลิตภัณฑ์ทางน้ำที่แข็งแกร่งและการฟื้นตัวของธุรกิจอื่นๆ อีกด้วยโดยอุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์ของประเทศไทยในช่วงครึ่งปีแรกนี้เติบโตขึ้น 4.1% จากปีที่แล้ว ในขณะที่ยามาฮ่าเติบโตขึ้น 6.2% ซึ่งถือได้ว่าเติบโตมากกว่าตลาดโดยรวม อย่างไรก็ตาม อย่างที่ทุกท่านทราบดี ในอุตสาหกรรมต่างๆ รวมทั้งรถจักรยานยนต์ ห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกประสบปัญหาการขาดแคลนชิป IC ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ต่อเนื่อง รวมทั้งความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนยิ่งทำให้สถานการณ์ในการค้าทั่วโลกมีความลำบากมากขึ้น
อีกทั้งยอดขายผลิตภัณฑ์ทางน้ำที่แข็งแกร่งและการฟื้นตัวของธุรกิจอื่นๆ อีกด้วยโดยอุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์ของประเทศไทยในช่วงครึ่งปีแรกนี้เติบโตขึ้น 4.1% จากปีที่แล้ว ในขณะที่ยามาฮ่าเติบโตขึ้น 6.2% ซึ่งถือได้ว่าเติบโตมากกว่าตลาดโดยรวม
ทั้งนี้ทางบริษัทฯได้ร่วมกับสำนักงานใหญ่ในประเทศญี่ปุ่นและผู้ผลิตชิ้นส่วน เพื่อลดผลกระทบจากปัจจัยดังกล่าว และเร่งฟื้นฟูการขาดแคลนของวัตถุดิบ และจัดสรรรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าไปยังผู้จำหน่ายเพื่อส่งมอบให้แก่ลูกค้าโดยเร็ว โดยเน้นให้ความสำคัญของคุณภาพผู้จำหน่าย รวมถึงการบริการหลังการขาย ซึ่งเชื่ออย่างยิ่งว่าสิ่งนี้มีบทบาทในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ ยามาฮ่า และเพื่อสร้าง Lifetime Customers สำหรับโชว์รูมรูปแบบใหม่ ยามาฮ่ามุ่งหวังที่จะปรับปรุงคุณภาพ 3S ให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้ลูกค้าทุกคนได้รับประสบการณ์ที่เหนือความคาดหมายอีกด้วย
ด้านนายพงศธร เอื้อมงคลชัย รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ภาพรวมตลาดของรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าในครึ่งปีแรกของปี 2565 ที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่ายอดจดทะเบียนรวมในปีนี้เพิ่มขึ้นถึง 1.3% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2562 ก่อนที่จะมีสถานการณ์โควิด-19 โดยในส่วนของยอดจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าของปี 2562 จาก 133,000 คัน เพิ่มเป็น 141,000 คัน มีตัวเลขเพิ่มขึ้นถึง 5.8% สำหรับการคาดการณ์ตัวเลขของตลาดรวมในปี 2565 เปรียบเทียบกับปี 2564 คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2% จากเดิม 1.610 ล้านคัน เป็น 1.642 ล้านคัน โดยเป้าหมายของยามาฮ่าในปีนี้ อยู่ที่ 287,000 คัน และมีเป้าหมายที่จะเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดเป็น 17.5% สำหรับกลยุทธ์หลักนับจากนี้ยามาฮ่ายังคงให้ความสำคัญในเรื่องการสร้างแบรนด์ผ่านพันธกิจองค์กร KANDO CREATING COMPANY ผ่านแบรนด์สโลแกน Revs your Heart เร่งชีวิต ให้เร้าใจ และ 5 วิถีอันเป็นเอกลักษณ์ของยามาฮ่า ได้แก่ 1.) Innovation 2.) Excitement 3.) Confidence 4.) Emotion 5.) Ties
ซึ่งจากผลการสำรวจคะแนนความแข็งแกร่งของแบรนด์ โดย Interbrand พบว่า คะแนนความแข็งแกร่งของแบรนด์ยามาฮ่าในปี 2561 จากเดิม 50.0 ในปี 2564 เพิ่มขึ้นเป็น 58.6 ซึ่งเกิดจากการทำการตลาดที่สร้างสรรค์อย่างต่อเนื่องของยามาฮ่า และการได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากผู้จำหน่าย พันธมิตรทางธุรกิจ และลูกค้า โดยในปี 2565 ยามาฮ่ายังคงเสริมความแข็งแกร่งของแบรนด์อย่างต่อเนื่อง ผ่านผลิตภัณฑ์และกิจกรรม และไลฟ์สไตล์ที่ตอบโจทย์ลูกค้า ได้แก่ กิจกรรมการฉลองในวาระครบรอบ “Yamaha 67th Anniversary Safety มีสติ” โดยเป็นการต่อยอดแคมเปญ Helmet Design Challenge “Safety มีสติ” ที่มีการประกวดไปในงานมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมา และนำผลงานของผู้ชนะจากผู้ส่งผลงานกว่า 452 ผลงาน มาผลิตเป็นหมวกกันน็อก ลิมิเต็ด อิดิชั่น ลายพิเศษที่มีคุณค่า มีความหมาย และน่าสะสม จำนวน 6,700 ใบ มอบให้ฟรีสำหรับลูกค้าที่ซื้อรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าในเดือนกรกฎาคม และร่วมบริจาคเงินเข้ามูลนิธิรามาธิบดีฯ จำนวน 67 บาท ภายใต้กิจกรรม “Yamaha 67th Anniversary Safety มีสติ” ซึ่งได้รับความสนใจจากลูกค้าเป็นอย่างมาก
สำหรับการปรับรูปแบบใหม่ของศูนย์บริการและจำหน่าย โดยมีการปรับเปลี่ยนเป็นโชว์รูมรูปแบบใหม่กว่า 90 สาขาทั่วประเทศ เพื่อเป็นการสร้าง Customer Community สร้างความผูกพันของลูกค้าในแต่ละพื้นที่ เสริมสร้างสินค้าและกิจกรรมทางการตลาด และมุ่งเน้นการบริการหลังการขายในระดับพรีเมียมให้กับลูกค้า โดยได้ยกระดับและพัฒนาศูนย์บริการยามาฮ่าทั่วประเทศ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าด้วยมาตรฐาน PROCARE เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้บริการได้เต็มสมรรถนะ และยังได้รับคะแนนความพึงพอใจจากลูกค้าถึง 95% รวมถึงยังเป็นสร้างผลกำไรให้แก่ผู้จำหน่ายได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้การเปิดตัวรถจักรยานยนต์ไฟฟ้ายามาฮ่า E01 ในงานมอเตอร์โชว์ ที่ผ่านมา ได้สร้างปรากฏการณ์และได้รับความสนใจอย่างยิ่งจากลูกค้าทั้งในออนไลน์ และออฟไลน์ โดยเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาได้พาสื่อมวลชนชั้นนำไปทดสอบขับขี่กันที่เขาใหญ่ เพื่อให้สื่อมวลชนได้สัมผัสสมรรถนะการขับขี่ ยามาฮ่า E01 อย่างเต็มระบบ และได้รับการตอบรับที่ดีจากท่านสื่อมวลชนเป็นอย่างยิ่ง รวมถึงความสำเร็จจากบูธยามาฮ่า Motoverse ในงานบางกอก มอเตอร์โชว์ที่ผ่านมา ที่ออกแบบโดยใช้แนวคิด YAMAHA Branding เป็นแกนหลักในการสรรค์สร้างดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ สะท้อนความทันสมัยด้านการขับขี่แห่งอนาคต ที่ได้รับการยอมรับด้วยรางวัล Exhibit Design Award ในปี 2565 และเป็นปีที่ 16 ติดต่อกัน
นอกจากนี้ยังผลงานแห่งความภาคภูมิใจของยามาฮ่าในการเข้าร่วมการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกในรายการ MotoGP ซึ่งในปี 2021 ที่ผ่านมารถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า YZR-M1 ได้กลับมาพิสูจน์ความยิ่งใหญ่อีกครั้งกับผลงานของ ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร่ #20 นักแข่งชาวฝรั่งเศสเจ้าของฉายา เอล ดิอาโบล และในเดือนตุลาคมปี 2022 นี้ เราจะร่วมส่งแรงเชียร์แรงใจให้ 2 นักแข่งสังกัด มอนสเตอร์ เอเนอร์จี ยามาฮ่า โมโตจีพี นำโดยแชมป์ประจำปี 2021 ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร่ #20 ให้สามารถรักษาแชมป์โลกได้อีก 1 ครั้ง โดยมีทีมเมทคู่หูอย่าง ฟรังโก้ มอร์บิเดลลี #21 มาร่วมทำการแข่งขันและเราจะฉลองความยิ่งใหญ่กันที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ที่ขาดไม่ได้กับการแข่งขันในรุ่นโมโตทู เรามีความภูมิใจที่ส่ง เขมินท์ คูโบะ #81 เด็กไทยเข้าร่วมการแข่งขันภายใต้สังกัด วีอาร์ โฟว์ตี้ซิกซ์ เดอะมอสเตอร์ แคมป์ทีม โดยมีคู่หูชาวสเปน มานูเอล กอนซาเลซ #18 แบบเต็มฤดูกาล ถือเป็นอีกหนึ่งความภูมิใจที่ยามาฮ่าได้ส่งนักแข่งไทยไปในระดับโลกอีกด้วย
ล่าสุด ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร ดาวบิดเฟรนช์ สังกัดมอนสเตอร์ เอเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพี รีดฟอร์มเก่งบิดคว้าโพเดี้ยมในเรซล่าสุดที่ เซปังฯ อยู่บนเส้นทางลุ้นแชมป์ประจำปี พร้อมดวลในเรซสุดท้าย ที่ บาเลนเซียการชิงชัยสนามที่ 19 ศึกโมโตจีพี 2022 ดวลความเร็วในวันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม ที่ผ่านมา ณ เซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย โดย ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร #20 ได้เริ่มเกมจากกริดที่ 12 ขณะที่ ฟรังโก มอร์บิเดลลี #FM21 เพื่อนร่วมสังกัดประจำการในกริดที่ 7 และเป็นทางด้าน กวาร์ตาราโร #FQ20 ที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ทะยานขึ้นมาอยู่ในกลุ่มหัวแถวตั้งแต่ต้นเกม ก่อนจะไล่บดคู่แข่งอย่างหนัก และบิดจบการแข่งขันด้วยอันดับ 3 รวมถึง มอร์บิเดลลี #21 ที่ยังคงอยู่ในฟอร์มอันร้อนแรง แม้จะต้องรับโทษลองแลปเพนัลตี้ ทว่ายังสามารถบิดจบการแข่งขันในอันดับท็อปเท็น แต่โดนบวกเวลาเพิ่ม ส่งผลให้ลงมารั้งอยู่ในอันดับ 1 จากผลการแข่งขันดังกล่าว ส่งผลให้ กวาร์ตาราโร ยังคงอยู่บนเส้นทางลุ้นแชมป์ประจำปี และพร้อมดวลในเรซสุดท้ายของฤดูกาล ที่ เซอร์กิต ริคาร์โด ตอร์โม เมืองบาเลนเซีย ประเทศสเปน ระหว่างวันที่ 4-6 พฤศจิกายน นี้