Login to your account

Username *
Password *
Remember Me

Create an account

Fields marked with an asterisk (*) are required.
Name *
Username *
Password *
Verify password *
Email *
Verify email *
Captcha *
Reload Captcha

LGT เปิด Private Banking ในไทย

LGT เปิดสำนักงานเพื่อให้บริการด้านจัดการความมั่งคั่งแก่นักลงทุนรายใหญ่ในประเทศไทย

ลิกเตนสไตน์, LGT กลุ่มบริษัทที่ดำเนินงานด้านไพรเวทแบงค์กิ้งและการจัดการสินทรัพย์ระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นเจ้าของโดย ราชวงศ์แห่งลิกเตนสไตน์ (Princely House of Liechtenstein) ได้ประกาศเปิดตัวธุรกิจไพรเวทแบงค์ในประเทศไทยหลังจากได้รับการอนุมัติตามกฎระเบียบเป็นที่เรียบร้อย สำนักงานของ LGT ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพมหานคร และพร้อมให้บริการด้านการลงทุนและการจัดการความมั่งคั่งที่หลากหลายแก่กลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ (high net worth individuals) และลูกค้าระดับองค์กรในประเทศ

เจ้าชายแมกซ์แห่งลิกเตนสไตน์ (H.S.H. Prince Max von und zu Liechtenstein)

สำหรับการประกาศเปิดตัวการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยนี้ เจ้าชายแมกซ์แห่งลิกเตนสไตน์ (H.S.H. Prince Max von und zu Liechtenstein) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ LGT ทรงตรัสว่า "เรามีความยินดีที่จะเริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทยและมุ่งหวังที่จะให้บริการด้านไพรเวทแบงค์อย่างเต็มรูปแบบแก่นักลงทุนรายใหญ่ ครอบครัวของพวกเขา และลูกค้าระดับองค์กร

เราเล็งเห็นว่าประเทศไทยเป็นตลาดที่มีการเติบโตที่สำคัญ ทั้งนี้ การเปิดสำนักงานที่นี่ถือเป็นการสะท้อนความตั้งใจของเราในการขยายการเติบโตในเอเชีย

LGT เป็นกลุ่มบริษัทด้านการบริการไพรเวทแบงค์และการจัดการสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองวาดุซ ประเทศลิกเตนสไตน์ โดยมีราชวงศ์แห่งลิกเตนสไตน์ (Princely House of Liechtenstein) เป็นเจ้าของและบริหารงาน โดยในช่วงกลางปี พ.ศ. 2561 LGT ได้บริหารสินทรัพย์รวมมูลค่าถึง 2.075 แสนล้านเหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 6.5 ล้านล้านบาท) สำหรับในเอเชีย LGT เป็นไพรเวทแบงค์ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 12 ซึ่งมีมูลค่าสินทรัพย์ที่บริหารมากกว่า หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ (หรือ 1.9 ล้านล้านบาท)

เจ้าชายแมกซ์ ตรัสเพิ่มเติมว่า "โครงสร้างผู้ถือหุ้นที่มั่นคงของเรา เครือข่ายระหว่างประเทศที่คลอบคลุม แนวทางการดำเนินงานที่เข้าถึงความต้องการของลูกค้าเฉพาะบุคคล รวมถึงประสบการณ์ที่ครอบคลุมของที่ปรึกษาด้านการดูแลสินทรัพย์ของเรา คือสิ่งที่ทำให้ LGT แตกต่าง ลูกค้าของเราสามารถลงทุนได้ดั่งสมาชิกราชวงศ์ และได้รับผลประโยชน์ผ่านความเชี่ยวชาญด้านการลงทุนของเรา ทั้งหมดนี้มีผลให้เกิดความต้องการระหว่างเราและลูกค้าดำเนินไปในทิศทางเดียวกัน"

บริษัทย่อยของ LGT ในประเทศไทยจะเป็นที่รู้จักภายใต้ชื่อบริษัทหลักทรัพย์แอลจีที (ประเทศไทย) จำกัด หรือ LGT Securities (Thailand) Limited โดยมีทีมที่ปรึกษาด้านการลงทุนและนักวางแผนการลงทุนและการจัดการความมั่งคั่งพร้อมให้คำปรึกษาแก่ลูกค้าชาวไทยผ่านสำนักงานที่กรุงเทพฯ และยังจะช่วยส่งเสริมสนับสนุนการดำเนินงานด้านไพรเวทแบงค์ของ LGT ในฮ่องกงและสิงคโปร์อีกด้วย

"การเปิดสำนักงานของเราในกรุงเทพฯ นับเป็นก้าวสำคัญทางกลยุทธ์ต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนของเราในทวีปเอเชีย" นายเฮนรี ไลเมอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LGT Private Banking Asia กล่าว "เราเติบโตอย่างน่าพอใจในช่วงปีที่ผ่านมาในภูมิภาคนี้ อีกทั้งยังมีการขยายตัวอย่างเห็นได้ชัดของสินทรัพย์ที่เราบริหารจัดการ ประเทศไทยเป็นตลาดที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว รวมทั้งมีโอกาสที่น่าสนใจมากมาย การมีสำนักงานประจำในกรุงเทพฯ จะเปิดโอกาสให้เราสามารถให้คำปรึกษาและสนับสนุนลูกค้าชาวไทยของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น"

การขับเคลื่อนและขยายตัวทางการตลาดของ LGT ในประเทศไทยจะอยู่ภายใต้การดูแลโดยนายกานต์ คฤหเดช บุคลากรผู้คร่ำหวอดในวงการมาอย่างยาวนาน และเปี่ยมด้วยประสบการณ์มากกว่า 20 ปี ในด้านไพรเวทแบงค์กิ้ง และมีนายเอกภพ เมฆกัลจาย ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นักธนาคารมืออาชีพที่มีประสบการณ์มากกว่า 16 ปี ในด้านธุรกิจตลาดเงินตลาดทุน และธนบดีธนกิจ นอกจากนี้ ยังประกอบด้วยทีมงานผู้ดูแลลูกค้าสัมพันธ์ที่มีประสบการณ์ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ

 

เกี่ยวกับ LGT

LGT เป็นกลุ่มบริษัทชั้นนำที่ดำเนินงานด้านไพรเวทแบงค์และการจัดการสินทรัพย์ในระดับนานาชาติ ซึ่งบริหารงานโดยราชวงศ์แห่งลิกเตนสไตน์ (Liechtenstein Princely Family) มาเป็นเวลานานกว่า 80 ปี ตัวเลข ณ วันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2561 ระบุว่า LGT จัดการสินทรัพย์มูลค่ารวมทั้งสิ้น 2.060 แสนล้านฟรังก์สวิส (2.075 แสนล้านเหรียญสหรัฐ) สำหรับลูกค้ารายบุคคลระดับมหาเศรษฐีและลูกค้าระดับองค์กร LGT มีพนักงานมากกว่า 3,000 คน ในสำนักงานมากกว่า 20 แห่งในยุโรป เอเชีย อเมริกา และตะวันออกกลาง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดเยี่ยมชมที่เว็บไซต์ www.lgt.com

Rate this item
(1 Vote)
Last modified on Wednesday, 06 March 2019 11:43
อารีย์ ศิริวราพร

Author : จบวารสารศาสตร์ เป็นนักนักหนังสือพิมพ์ ประจำสายข่าวการเงิน หุ้น การลทุน ธนาคาร พันธบัตร และข่าวสายเศรษฐกิจเป็นหลัก บนเส้นทางงานข่าวให้สิ่งดีๆ กับชีวิตเสมอ

Leave a comment

Make sure you enter all the required information, indicated by an asterisk (*). HTML code is not allowed.


  
X

ลิขสิทธิ์ของ IM

ห้ามผู้ใดทำซ้ำ คัดลอก ลอกเลียน ดัดแปลง ปลอมแปลง จัดเผยแพร่ เรียกดึงข้อมูล บันทึก ส่งผ่าน หรือกระทำการใดๆ ที่ละเมิดสิทธิและทรัพย์สินทางปัญญาของ IM