บมจ.ไทยอุตสาหกรรมพลาสติก (1994) หรือ TPLAS เปิดกลยุทธ์ปี 62 ประกาศขยายตลาดผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เตรียม ลงสนามทดลองตลาด ต้นปีหน้า พร้อม ขอก้าวสู่การเป็นผู้นำทางด้านอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์เกี่ยวกับอาหาร ที่ทันสมัย และมีคุณภาพสูง
ด้าน กรรมการผู้จัดการ " ธีระชัย ธีระรุจินนท์ " ระบุ เร่งเดินเกมแตกไลน์ธุรกิจ ขยายฐานลูกค้าเพิ่ม หวังปั้มยอดขาย ดันรายได้ปี62 โต 15%
นายธีระชัย ธีระรุจินนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยอุตสาหกรรมพลาสติก (1994) จำกัด (มหาชน) หรือ TPLAS ผู้นำด้านการผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ถุงบรรจุอาหาร และ ถุงหูหิ้ว ภายใต้ตราสัญญาลักษณ์ " หมากรุก" และฟิล์มยืดห่อหุ้มอาหาร ภายใต้ตราสัญญาลักษณ์ " Vow Wrap " เปิดเผยถึงแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ในปี2562 ว่า บริษัทฯยังคงมุ่งมั่นที่จะก้าวสู่การเป็นผู้นำทางด้านอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์เกี่ยวกับอาหาร ที่ทันสมัย และมีคุณภาพสูง รวมถึงมีความหลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในประเทศ และภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
โดยในปี 2562 บริษัท TPLAS ตั้งเป้าหมายเอาใว้ว่าจะมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น ไม่ต่ำกว่า15%
ทั้งนี้ เป็นผลจากยอดขายผลิตภัณฑ์กลุ่ม ถุงพลาสติกและฟิล์มถนอมอาหาร นอกจากนี้ บริษัทฯเตรียมที่จะผลิตสินค้าใหม่ ซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ประเภทบรรจุภัณฑ์ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยเบื้องต้นคาดว่า จะเริ่มทดลองตลาดช่วงต้นปี2562 ส่งผลให้ในอนาคต บริษัทฯสามารถกระจายความเสี่ยงของรายได้ จากเดิมที่บริษัทฯมีรายได้จากยอดขายผลิตภัณฑ์ถุงพลาสติกและฟิล์มถนอมอาหาร เพียงอย่างเดียว
สำหรับกลยุทธ์การเจาะตลาดในผลิตภัณฑ์ใหม่นั้น บริษัทฯยังคงมุ่งเน้นไปยังลูกค้ากลุ่มเดิม และขยายฐานไปยังกลุ่มอุตสาหกรรมรายใหม่ๆ อาทิ อุตสาหกรรมอาหาร ห้างสรรพสินค้า หรือ Modern Trade และโรงแรม เนื่องจากสินค้าชนิดนี้ ยังเป็นที่ต้องการของตลาด ด้านอุปโภคและบริโภค ซึ่งถือว่ามี ดีมานด์ความต้องการใช้สูง และยังเป็นสินค้าที่สามารถนำมาทดแทนผลิตภัณฑ์เดิมๆที่มีอยู่ในท้องตลาดได้
นอกจากนี้ กรรมการผู้จัดการ TPLAS ยังได้กล่าวถึง ภาพรวมอุตสาหกรรมถุงพลาสติกว่า ในปัจจุบันการบริโภคอยู่ในระดับปกติ เพิ่มขึ้น และ ลดลงตามสถานการณ์ ถึงแม้ว่าจะมีกระแสการรณรงค์รักษ์ลดใช้ถุงพลาสติกในปัจจุบัน แต่บริษัทฯได้รับผลกระทบไม่มาก เนื่องจากบริษัทฯมีกลยุทธ์ในการบริการลูกค้า ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ การกำหนดการขาย ที่มีความยืดหยุ่นต่อลูกค้า
ซึ่งการบริหารจัดการดังกล่าว ส่งผลให้บริษัทฯลดความเสี่ยง ที่เกิดขึ้นได้ พร้อมทั้ง ต้องยอมรับว่า ถุงพลาสติก ยังจำเป็นสำหรับการใช้งานอยู่ จึงมองว่าธุรกิจพลาสติกยังมีโอกาสเติบโตตามความต้องการใช้ อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม สำหรับความคืบหน้าการดำเนินการขยายอาคารโรงงานใหม่ และการติดตั้งเครื่องจักรใหม่ สำหรับการผลิตผลิตภัณฑ์ถุงพลาสติก และปรับปรุงอาคารโรงงานเดิม รวมถึงสำนักงานบริษัทฯ เพื่อเป็นการรองรับความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์จากถุงพลาสติก และการขยายตลาดนั้น ปัจจุบัน อาคารโรงงาน ได้มีการปรับพื้นที่ เตรียมการก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ในขณะที่ อาคารสำนักงาน มีคืบหน้าไปกว่า 50 % ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่า การก่อสร้างจะดำเนินเป็นไปตามแผนงานที่กำหนดไว้ คาดว่าการก่อสร้างแล้วเสร็จทั้งหมด ภายในปลายปี 2562
ทั้งนี้ หากอาคารโรงงานใหม่ สามารถรองรับกำลังการผลิตเพิ่ม ได้มากเกือบเท่าตัว หรือไม่น้อยกว่า 30% ปัจจุบันกำลังการผลิตรวมถุงพลาสติกประมาณ 10,200 ตันต่อปี และ กำลังการผลิตฟิล์มยืดห่อหุ้มอาหาร ประมาณ 1,440 ตันต่อปี