Print this page
AEC

รัฐมนตรี RCEP เดินหน้าหาข้อสรุป 6 ในประเด็นหลัก ของการเจรจาภายในปี 2561 คาดลงนามได้ในปี’62

การประชุมอาร์เซ็ป ครั้งที่ 6 ตกลงกันได้ในประเด็นหลักที่มีความสำคัญกับอนาคตของการเจรจาได้เป็นผลสำเร็จ โดยเฉพาะใน 6 เรื่องสำคัญ พร้อมได้ตกลงแผนการทำงานในอนาคต โดยกำหนดให้สมาชิกยื่นข้อเสนอการเปิดตลาดสินค้า บริการ และลงทุนฉบับปรับปรุง

นางสาวชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การประชุมรัฐมนตรีความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หรือ อาร์เซ็ป ครั้งที่ 6 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30-31 สิงหาคม 2561 ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์ ในระหว่างการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน (AEM) ครั้งที่ 50 ซึ่งถือได้ว่าเป็นครั้งแรกที่ระดับรัฐมนตรี RCEP ตกลงกันได้ในประเด็นหลักที่มีความสำคัญกับอนาคตของการเจรจาได้เป็นผลสำเร็จ โดยเฉพาะใน 6 เรื่องสำคัญ คือ การจัดทำข้อผูกพันการเปิดตลาดสินค้า บริการ และการลงทุน การจัดทำข้อบทเรื่องทรัพย์สินทางปัญญา การแข่งขัน และพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และได้มอบให้ระดับเทคนิคไปหารือกันต่อในรายละเอียดเพื่อหาข้อสรุปในเรื่องเหล่านี้ให้ได้ภายในปี 2561

หลังจากนี้ผู้เจรจาในระดับเทคนิคจะต้องพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อขับเคลื่อนการเจรจาไปสู่เป้าหมายตามที่ระดับรัฐมนตรีกำหนดไว้ โดยปัจจุบันสมาชิกRCEP สามารถหาข้อสรุปได้แล้ว 4 เรื่อง คือ การจัดทำข้อบทเรื่องพิธีการศุลกากรและการอำนวยความสะดวกทางการค้า

ส่วนเรื่องการจัดซื้อจ้ดจ้างโดยรัฐ ผู้ประกอบการ SMEs และความร่วมมือทางเศรษฐกิจ สำหรับเรื่องอื่นๆ จะต้องพยายามเร่งหาข้อสรุปโดยเร็วต่อไป โดยเฉพาะใน 6 เรื่องที่ระดับรัฐมนตรีตกลงกันในการประชุมครั้งนี้ เพราะเป็นประเด็นที่มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนการเจรจาไปสู่ความสำเร็จ

พร้อมกันนี้ ที่ประชุมระดับรัฐมนตรียังได้ตกลงแผนการทำงานในอนาคต เพื่อให้สามารถรายงานความคืบหน้าต่อที่ประชุมระดับผู้นำได้ โดยกำหนดให้สมาชิกยื่นข้อเสนอการเปิดตลาดสินค้า บริการ และลงทุนฉบับปรับปรุง ภายในวันที่ 28 กันยายน 2561 ควบคู่ไปกับการหารือระดับสองฝ่าย เพื่อให้การเปิดตลาดระหว่างสมาชิกอาร์เซ็ปตอบสนองข้อเรียกร้องระหว่างกัน และให้มีการประชุมระดับรัฐมนตรีอาร์เซ็ปสมัยพิเศษ ในต้นเดือนตุลาคม 2561 เพื่อประเมินผลข้อเสนอเปิดตลาดฉบับปรับปรุง ก่อนเปิดให้สมาชิกยื่นข้อเสนอ

สำหรับการเปิดตลาดฉบับสุดท้าย ในวันที่ 15 ตุลาคม 2561 จากนั้นจะมีการประชุมระดับเทคนิคเต็มรอบ ในวันที่ 21-27 ตุลาคม 2561 ที่นิวซีแลนด์ ก่อนที่ระดับรัฐมนตรีและระดับผู้นำสมาชิก RCEP จะพบกันในเดือนพฤศจิกายน ในช่วงการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่สิงคโปร์

นางสาวชุติมา กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการประชุมครั้งนี้ สมาชิกอาร์เซ็ปได้แสดงความมุ่งมั่นให้การเจรจาคืบหน้าและประกาศผลสรุปที่มีนัยสำคัญในปลายปี 2561 และจัดทำเอกสารผลการเจรจาเพื่อให้สามารถลงนามได้ในปี 2562

“การรวมกลุ่มเพื่อเปิดการค้าเสรีในระดับภูมิภาคขนาดใหญ่เช่นอาร์เซ็ป ซึ่งมีสมาชิก 16 ประเทศ (อาเซียน 10 ประเทศ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น จีน เกาหลี และอินเดีย) ซึ่งจะช่วยให้สมาชิกสามารถรับมือกับความเสี่ยงและความท้าทายที่เกิดขึ้นในระบบเศรษฐกิจการค้าโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นเพราะผลการเจรจาจะทำให้อาร์เซ็ปกลายเป็นตลาดการค้าและการลงทุนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ครอบคลุมหนึ่งในสามของเศรษฐกิจโลก มีประชากรรวมกันกว่า 3.5 พันล้านคน มี GDP รวมกันมากกว่า 23 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งผู้ประกอบการไทยจะสามารถใช้ประโยชน์จากความตกลงอาร์เซ็ป เชื่อมเข้าสู่ห่วงโซ่มูลค่าในภูมิภาคอาร์เซ็ปและตลาดโลกด้วย”

ทั้งนี้ ในส่วนการค้าของไทยกับประเทศสมาชิกอาร์เซ็ป ในปี 2560 มีมูลค่าการค้ารวมประมาณ 2.69 แสนล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 58.66 ของการค้ารวมทั้งหมดของไทย เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ร้อยละ 10.85 ทั้งนี้ ประเทศในภูมิภาคอาร์เซ็ปที่ไทยส่งออกมากที่สุดตามลำดับ ได้แก่ อาเซียน จีน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย โดยมีสินค้าสำคัญที่ไทยส่งออก ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติก น้ำมันสำเร็จรูป เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ยาง ยางพารา เครื่องจักรกล เหล็ก เป็นต้น

Rate this item
(0 votes)
Last modified on Tuesday, 23 October 2018 11:02
บัญชา สมพงษ์สวรรค์

Author : เกาะติดเรื่องราวต่างประเทศ, การท่องเที่ยวต่างแดน, ข่าวในญี่ปุ่น, ข่าวในเกาหลี, สายการบิน, ศิลปะวัฒนธรรม, Likestyle, ไอเดียใหม่, เทคโนโลยีและสินค้าใหม่ๆ, ต่างชาติมองไทย ฯลฯ

Latest from บัญชา สมพงษ์สวรรค์

Related items

X

ลิขสิทธิ์ของ IM

ห้ามผู้ใดทำซ้ำ คัดลอก ลอกเลียน ดัดแปลง ปลอมแปลง จัดเผยแพร่ เรียกดึงข้อมูล บันทึก ส่งผ่าน หรือกระทำการใดๆ ที่ละเมิดสิทธิและทรัพย์สินทางปัญญาของ IM