Print this page

ILINK ฟอร์มแกร่ง แซงโค้ง โกยรายได้ Q3/65 พร้อมโชว์กำไร 9 เดือน พุ่ง 11.18%

สดใส ! งวด 9 เดือนแรก ILINK โชว์รายได้รวม 4,862.45 ล้านบาท หลังเศรษฐกิจโลกฟื้น หนุนยอดขายธุรกิจจัดจำหน่าย (Distribution) บวกแรง ล่าสุดในไตรมาส 3/65 นี้ โกยรายได้รวม 1,806.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.42% และทำกำไรโตต่อเนื่องแตะ 85.29 ล้านบาท มั่นใจชัดมีรายได้รองรับการเติบโตอย่างก้าวกระโดด คาดแนวโน้มทำกำไรสูงทะลุเป้ายาวถึงปี 2567

คุณวริษา อนันตรัมพร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ILINK กล่าวว่า “ปัจจุบันเศรษฐกิจทั่วโลกกลับมาเดินหน้าขับเคลื่อนได้อย่างเต็มกำลัง และด้วยยุคสมัยที่กำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่โลกดิจิทัลอย่างรวดเร็วนั้น ทำให้ผลประกอบการของ ILINK เติบโตต่อเนื่องไปในทิศทางเดียวกัน โดยงวด 9 เดือนแรกของปี 2565 ILINK มีรายได้รวม 4,862.45 ล้านบาท เติบโตขึ้น 19.29% และมีกำไรสุทธิ 261.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.18% เมื่อเทียบกับงวด 9 เดือนของปีก่อน และจากที่บริษัทฯ ชนะการประมูลงานโครงการใหญ่มาล่าสุด ทำให้ปัจจุบัน ILINK มีรายได้รอรับรู้จากธุรกิจวิศวกรรม (Backlog) เพิ่มขึ้นอีกกว่า 3 เท่าตัว สูงที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา ประกอบกับการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของตลาดโซลาร์รูฟท็อป (Solar Rooftop) ก็เป็นตัวผลักดันให้สินค้ากลุ่มสายโซล่า (Solar Cable) ของธุรกิจจัดจำหน่ายขึ้นแท่นเป็น Best Seller ตัวใหม่ จึงเห็นได้ชัดว่าแนวโน้มผลประกอบการโค้งสุดท้าย และภาพรวมทั้งปี 2565 จะสามารถเติบโตทะลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้อย่างแน่นอน” 

ซึ่งอัตรายอดขายที่เพิ่มขึ้นสองหลักในงวดนี้ มีความโดดเด่นต่อเนื่องมาตลอด 9 เดือนที่ผ่านมา และเป็นไปตามเป้าหมายทั้งปีที่ฝ่ายบริหารได้ตั้งไว้ ปัจจัยบวกยังคงมาจากความต้องการใช้เทคโนโลยีสายสัญญาณที่เพิ่มมากขึ้น

สำหรับไตรมาส 3/65 นี้ ILINK มีรายได้รวม 1,806.61 ล้านบาท เติบโตขึ้น 16.42% และมีกำไรสุทธิ 85.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.17% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดย ธุรกิจจัดจำหน่าย (Distribution) สามารถทำยอดขายสินค้าได้จำนวน 675.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.01% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/64 (YoY) และเพิ่มขึ้น 23.35% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/65 (QoQ) ซึ่งอัตรายอดขายที่เพิ่มขึ้นสองหลักในงวดนี้ มีความโดดเด่นต่อเนื่องมาตลอด 9 เดือนที่ผ่านมา และเป็นไปตามเป้าหมายทั้งปีที่ฝ่ายบริหารได้ตั้งไว้ ปัจจัยบวกยังคงมาจากความต้องการใช้เทคโนโลยีสายสัญญาณที่เพิ่มมากขึ้น เพื่อรองรับระบบโครงสร้างพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพสูง ตอบโจทย์การใช้งานทุกระบบ และจากการที่ ILINK เป็นผู้นำเบอร์ 1 ในการจัดจำหน่ายสายสัญญาณที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและประเทศในกลุ่มอาเซียน รวมถึงมีการรับประกันที่ยาวนานที่สุดในตลาดถึง 30 ปี ส่งผลให้ลูกค้าทุกภาคส่วนเชื่อมั่นในคุณภาพ เลือกใช้เพื่อนำไปพัฒนาโครงข่าย และปรับปรุงระบบต่างๆ อีกทั้ง การประกาศปรับอัตราค่าไฟฟ้าที่มีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง ก็เป็นตัวผลักดันให้ตลาดแผงพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Cell) เติบโตอย่างก้าวกระโดด ทำให้ในงวดนี้ยอดขายสินค้ากลุ่มสายโซล่า (Solar Cable) เติบโตขึ้นอีก 49.86% ในขณะที่สินค้ากลุ่มตู้จัดเก็บอุปกรณ์สื่อสาร (Rack) และกลุ่มสาย UTP (LAN Cable) เติบโตขึ้น 19.52% และ 12.81% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/64 (YoY) ตามลำดับ

ด้านธุรกิจวิศวกรรม (Engineering) ซึ่งรับรู้รายได้ตามความสำเร็จของงานที่แตกต่างกันในแต่ละงวด ไตรมาส 3/65 นี้ บริษัทฯ รับรู้รายได้จากงานโครงการก่อสร้าง จำนวน 357.23 ล้านบาท ลดลง 16.00% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2564 (YoY) แต่สูงขึ้นถึง 58.82% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2565 (QoQ) เป็นผลจากการปิดและส่งมอบงานโครงการ CC4 หรืองานจัดซื้อพร้อมติดตั้งระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (APM) ให้แก่ท่าอากาศยานไทย รวมถึงมีความก้าวหน้าของงานโครงการที่สำคัญในมือ ได้แก่ งานจ้างก่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อยในจังหวัดเชียงใหม่และสุพรรณบุรี งานจ้างก่อสร้างปรับปรุงสถานีไฟฟ้านนทรีในจังหวัดปราจีนบุรี เป็นต้น

ล่าสุดเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน 2565 บริษัทฯ ได้ลงนามร่วมกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ในสัญญาจ้างก่อสร้างสายเคเบิลใต้น้ำ ระบบ 33 เควี ไปยังเกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี มูลค่าทั้งสิ้น 1,786.17 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ซึ่งเป็นมูลค่างานโครงการสายเคเบิลใต้น้ำที่สูงที่สุดเมื่อเทียบกับผลงานที่บริษัทฯ เคยรับมานานกว่า 15 ปี เช่น โครงการสายเคเบิลใต้น้ำเกาะพะงัน เกาะสีชัง เกาะล้าน เกาะมุก เกาะสุกร เกาะลิบง เกาะปูยู เกาะกูด เกาะหมาก เกาะปันหยี ฯลฯ ตอกย้ำการขึ้นครองตลาดเป็นเบอร์ 1 ในงานโครงการ Submarine Cable ของประเทศไทย ทำให้ปัจจุบัน ILINK มีรายได้รอรับรู้จากธุรกิจวิศวกรรม (Backlog) เพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่าตัว โตทะลุเป้าหมายทั้งปีที่ได้ตั้งไว้  โดยบริษัทฯ จะยังคงเดินหน้าเข้าประมูลงานโครงการใหม่เพิ่มเติมอีกหลายโครงการ เพื่อผลักดันให้ธุรกิจวิศวกรรมแข็งแกร่ง และทำกำไรสู่การเติบโต ต่อเนื่อง และยั่งยืนของกลุ่มบริษัทอินเตอร์ลิ้งค์ฯ ต่อไป

โดย นายสมบัติ อนันตรัมพร (กลาง) ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ILINK กล่าวว่า “การชนะการประกวด และได้รับงานในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นว่า บริษัทฯ มีศักยภาพในการเข้าประมูลและรับงานใหม่มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยสนับสนุนให้มูลค่างานในมือระหว่างรอรับรู้รายได้ (backlog) ของ ILINK ณ ปัจจุบัน ทะลุ 3,000 ล้านบาท ทำ New High โดยบริษัทฯ จะเริ่มรับรู้รายได้งานโครงการนี้ทันที ในปี 2565 และจะมีรายได้รองรับการเติบโตอย่างก้าวกระโดดยาวไปถึงปี 2567 ขณะเดียวกัน ยังคงมีแผนเดินหน้าเข้าประมูลงานในปีถัดไปอีกหลายโครงการ ซึ่งจากผลงานในอดีตที่ผ่านมา ได้แก่ เกาะพะงัน เกาะสีชัง เกาะล้าน เกาะมุก เกาะสุกร เกาะลิบง เกาะปูยู เกาะกูด เกาะหมาก เกาะปันหยี ฯลฯ ทำให้ ปัจจุบัน ILINK เป็นบริษัทฯ เดียวที่มีผลงานน่าเชื่อถือที่สุด จึงมั่นใจว่า INTERLINK จะสามารถเป็นเบอร์ 1 ในงานโครงการ Submarine Cable ของประเทศไทยได้ นับเป็นการตอกย้ำถึงความสำเร็จที่จะผลักดันให้ธุรกิจวิศวกรรม ซึ่งเป็นอีกธุรกิจหนึ่งของ ILINK สามารถเติบโตอย่างมีคุณภาพ สร้างผลการดำเนินงานทะลุเป้าหมาย ควบคู่ไปกับการสร้างความเชื่อมั่น เพื่อเป็นที่น่าจับตามองของนักลงทุนต่อไปในอนาคต”

ทั้งนี้ ในไตรมาส 3 บริษัทได้ร่วมกับบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เพาเวอร์ แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (บริษัทย่อย) ในนาม “INTERLINK CONSORTIUM” ได้รับหนังสือสั่งจ้าง “งานจ้างก่อสร้างปรับปรุงสถานีไฟฟ้านนทรี จังหวัดปราจีนบุรี” ตามโครงการพัฒนาระบบส่งและจำหน่าย ระยะที่ 2 แผนที่ 2 ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding)” จากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคแล้ว โดยงานจ้างก่อสร้างปรับปรุงสถานีไฟฟ้านนทรี จังหวัดปราจีนบุรี โครงการพัฒนาระบบส่งและจำหน่าย ระยะที่ 2แผนที่ 2 จำนวน 1 งาน มีมูลค่างาน 314,800,000 บาท

โดย บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เพาเวอร์ แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ถือกำเนิดมาจากธุรกิจวิศวกรรมของกลุ่มบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) ด้วยอุดมการณ์ในการที่จะนำเทคโนโลยีมาพัฒนาประเทศไทย ทำให้กลุ่มบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ฯ ทุ่มเทและให้ความสำคัญกับงานด้านวิศวกรรม โดยได้ลงทุนทั้งบุคลากรด้านวิศวกรรม และเครื่องมือ เครื่องทดลอง ตลอดจนมีการร่วมมือกับพันธมิตรที่มีผลงานระดับโลก ทำให้ในปัจจุบันธุรกิจวิศวกรรมโครงการภายใต้การนำของ บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เพาเวอร์ แอนด์ เอ็นเนอร์ยี จำกัด ได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้ก่อสร้างงานโครงการขนาดใหญ่ที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศอย่างมากมาย

โดยล่าสุด ILINK ได้รับรางวัลนักลงทุนสัมพันธ์ดีเด่น (Outstanding Investor Relations Awards) ประจำปี 2565 จากกลุ่มรางวัล Business Excellence ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้แก่ บริษัทจดทะเบียนที่มีความโดดเด่นด้านการดำเนินกิจกรรมนักลงทุนสัมพันธ์ จากการให้ความสำคัญต่อการมีส่วนร่วมของทั้งองค์กรในการดำเนินกิจกรรม และความคิดเห็นของผู้ต้องติดต่อกับนักลงทุนสัมพันธ์เป็นประจำอย่างนักวิเคราะห์ และนักลงทุนสถาบัน จากงาน SET Awards ในปี 2565 ที่ผ่านมา

ILINK ขอขอบพระคุณ ผู้ถือหุ้น นักลงทุน นักวิเคราะห์ และผู้ทรงคุณวุฒิทุกท่าน ที่เชื่อมั่นในฃศักยภาพ และพิจารณาให้ ILINK ได้รับรางวัลนักลงทุนสัมพันธ์ดีเด่นในปีนี้ ถือเป็นอีกบทพิสูจน์ของการดำเนินกิจกรรมนักลงทุนสัมพันธ์ ที่บริษัทฯ จัดให้มีการเปิดเผยข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วน มีคุณภาพ โปร่งใส และทันต่อเหตุการณ์ ควบคู่ไปกับการยกระดับขีดความสามารถเพื่อเป็นผู้นำเทคโนโลยีทางด้านสายสัญญาณ ภายใต้วิสัยทัศน์ “เติบโต ต่อเนื่อง และยั่งยืน ไปพร้อมกับลูกค้าและพันธมิตรของเรา” เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ถือหุ้น และนักลงทุนต่อไป” คุณวริษา กล่าวเสริมในตอนท้าย

ทั้งนี้เมื่อกลางปี ILINK ก็ได้คว้ารางวัล Thailand Sustainability Investment (THSI) หรือ หุ้นยั่งยืน ประจำปี 2565 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดย ILINK เป็น 1 ใน 170 บริษัทจดทะเบียนฯ และเป็น 1  ใน 10 บริษัทจดทะเบียนฯ ของกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่ผ่านการประเมินนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนา นำพาองค์กรให้เติบโต ต่อเนื่อง และยั่งยืน โดยได้คำนึงถึงการบริหารความเสี่ยงต่าง ๆ พร้อมรับมือกับปัจจัยการเปลี่ยนแปลงด้านสังคม และสิ่งแวดล้อม รวมถึงให้ความสำคัญกับหลักบรรษัทภิบาล หรือ การกำกับดูแลกิจการที่ดี เพื่อให้บริษัทฯ สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับทุกภาคส่วนได้อย่างทั่วถึงและยั่งยืน

 

โดยรางวัลดังกล่าว นับเป็นการตอกย้ำว่า ILINK ยังคงมุ่งมั่น และเพิ่มขีดความสามารถในการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับความรับผิดชอบ บนแนวทางความยั่งยืนอย่างเข้มข้นและมีประสิทธิภาพ ตลอดจนมีการเตรียมพร้อมรับมือกับความเสี่ยงใหม่ ๆ ที่อาจเกิดขึ้นตลอดเวลา ซึ่งธุรกิจที่จะเติบโตได้อย่างยั่งยืนนั้น ต้องรักษาสมดุลระหว่างสิ่งแวดล้อม ไปพร้อมกับสังคม และทันต่อเหตุการณ์ เพื่อการก้าวหน้า และตอบโจทย์อย่างรวดเร็ว อีกทั้งต้องคำนึงถึงผู้ถือหุ้น ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างทั่วถึง และผลักดันร่วมกับยุทธศาสตร์ด้านความยั่งยืน และธรรมาภิบาลควบคู่กันไป เพื่อทันต่อการเปลี่ยนแปลง และก้าวไปสู่ความสำเร็จตามเป้าหมายต่อไป



รับข่าวสารก่อนใคร ฉับใวถึงมือคุณ
เพิ่มเราเป็นเพื่อน แอดไลน์ @610nusdc
เพิ่มเพื่อน

Rate this item
(1 Vote)
Last modified on Thursday, 24 November 2022 05:19
อดิพันธ์ อภิชาติทนงกุล

Author : เกาะติดข่าวในอุตสาหกรรมยานยนต์ Automotive อากาศยาน อิเล็กทรอนิกส์ แม่พิมพ์ เครื่องจักร การแปรรูปโลหะ วิศวกรรม เครื่องมือแพทย์ และหุ่นยนต์

รวมถึงเทคโนโลยีในด้านนั้นๆ

Latest from อดิพันธ์ อภิชาติทนงกุล

Related items

X

ลิขสิทธิ์ของ IM

ห้ามผู้ใดทำซ้ำ คัดลอก ลอกเลียน ดัดแปลง ปลอมแปลง จัดเผยแพร่ เรียกดึงข้อมูล บันทึก ส่งผ่าน หรือกระทำการใดๆ ที่ละเมิดสิทธิและทรัพย์สินทางปัญญาของ IM