Login to your account

Username *
Password *
Remember Me

Create an account

Fields marked with an asterisk (*) are required.
Name *
Username *
Password *
Verify password *
Email *
Verify email *
Captcha *
Reload Captcha

มารู้จักโรคฝีดาษลิง (monkeypox)

โดย : รศ.พญ.จรัสศรี ฬียาพรรณ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย

โรคฝีดาษลิง (monkeypox) กับโรคฝีดาษหรือไข้ทรพิษ (small pox) เกิดจากเชื้อไวรัสกลุ่ม pox virus  เหมือนกัน แต่เป็นไวรัสคนละสายพันธุ์ ทั้งสองโรคมีการแพร่เชื้อและความรุนแรงที่ต่างกัน โดยโรคฝีดาษลิงจะมีความรุนแรงและอัตราการเสียชีวิตที่น้อยกว่าโรคฝีดาษ  โดยโรคฝีดาษลิงมีการรายงานการระบาดที่แถบทวีปแอฟริกาและอาจพบกระจายไปที่ทวีปอเมริกาหรือยุโรปเป็นบางช่วงเวลาผ่านการเดินทางหรือผ่านทางสัตว์ แต่โรคฝีดาษหรือไข้ทรพิษไม่มีรายงานผู้ป่วยติดเชื้อมาตั้งแต่ประมาณปี พ.ศ. 2522 สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศจึงมาให้ข้อกระจ่างความรู้กับโรคนี้

รศ.พญ.จรัสศรี ฬียาพรรณ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย กล่าวว่า โรคฝีดาษลิงติดต่อผ่านผิวหนังทางการสัมผัสสารคัดหลั่งหรือการโดนกัดจากสัตว์ที่ติดเชื้อจำพวกลิงหรือสัตว์ฟันแทะ เช่น หนูหรือกระรอก เป็นต้น มีรายงานการติดต่อจากคนสู่คนได้ผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่งหรือแผลของผู้ป่วย การแพร่กระจายผ่านละอองฝอยพบได้น้อย การแพร่กระจายของโรคฝีดาษลิงพบน้อยกว่าโรคฝีดาษมาก

อาการและอาการแสดงของโรคฝีดาษลิงจะมีอาการและอาการแสดงที่น้อยกว่าโรคฝีดาษ ผื่นของทั้งสองโรคจะมีลักษณะใกล้เคียงกันแต่ผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงจะพบต่อมน้ำเหลืองโตบ่อยมากกว่าโรคฝีดาษ

ส่วนอาการและอาการแสดงของโรคฝีดาษลิง ผู้ป่วยจะมีอาการหลังได้รับเชื้อประมาณ 7-14 วัน โดยจะเริ่มมีไข้ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ และปวดหลัง บางรายอาจมีอาการเจ็บคอ ท้องเสีย ปวดท้อง หรืออาเจียน ผื่นจะเริ่มขึ้น 1-3 วันหลังมีไข้ โดยจะเป็นผื่นแดงและกลายเป็นตุ่ม มักเริ่มที่หน้า ตัวและกระจายที่มือเท้า โดยตุ่มจะมีลักษณะเหมือนกันทั้งตัว หลังจากนั้นประมาณ14 วัน ตุ่มแดงทั้งหมดจะกลายเป็นตุ่มน้ำตุ่มหนองพร้อมกัน และเริ่มแตกเป็นแผลมีสะเก็ดพร้อมกัน  ซึ่งนอกจากอาการผื่นแล้วผู้ป่วยมักมีต่อมน้ำเหลืองโตที่บริเวณคาง ลำคอและขาหนีบ ผู้ป่วยส่วนน้อยอาจมีกระจกตาอักเสบ มีปอดอักเสบ หรือสมองอักเสบได้

อาการและอาการแสดงของโรคฝีดาษลิงจะมีอาการและอาการแสดงที่น้อยกว่าโรคฝีดาษ ผื่นของทั้งสองโรคจะมีลักษณะใกล้เคียงกันแต่ผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงจะพบต่อมน้ำเหลืองโตบ่อยมากกว่าโรคฝีดาษ  ส่วนความรุนแรงของโรคฝีดาษลิงและอัตราการเสียชีวิตของโรคฝีดาษลิงจะอยู่ที่ 1-10% ซึ่งต่ำกว่าโรคฝีดาษหรือไข้ทรพิษ 

ในทางการการรักษาโรคฝีดาษลิง จะทำการรักษาแบบประคับประคองตามอาการ หากผู้ป่วยมีอาการท้องเสียอาเจียน อาจจำเป็นต้องได้รับน้ำเกลือทางเส้นเลือด ยารักษาจำเพาะโรคใช้ในผู้ป่วยบางรายที่อาการรุนแรง ส่วนวัคซีนป้องกันโรคฝีดาษเพื่อป้องกันโรค จะแนะนำในกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงหรืออยู่ในแหล่งที่มีการระบาดของเชื้อ



รับข่าวสารก่อนใคร ฉับใวถึงมือคุณ
เพิ่มเราเป็นเพื่อน แอดไลน์ @610nusdc
เพิ่มเพื่อน

Rate this item
(0 votes)
Last modified on Saturday, 28 May 2022 06:06
อาริตา ลาญวิชัย

Author : กำลังเรียนพยาบาล สนใจและเกาะติดข่าวเกี่ยวกับโรงพยาบาล การแพทย์ การดูแลสุขภาพ เครื่องมือและนวัตกรรมทางการแพทย์ ยาและเภสัชกรรม อาหารชีวจิต โยคะ และการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน

Leave a comment

Make sure you enter all the required information, indicated by an asterisk (*). HTML code is not allowed.


  
X

ลิขสิทธิ์ของ IM

ห้ามผู้ใดทำซ้ำ คัดลอก ลอกเลียน ดัดแปลง ปลอมแปลง จัดเผยแพร่ เรียกดึงข้อมูล บันทึก ส่งผ่าน หรือกระทำการใดๆ ที่ละเมิดสิทธิและทรัพย์สินทางปัญญาของ IM