นับเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการเข้าสู่ตลาดต่างประเทศ โดยเริ่มต้นที่สหรัฐอเมริกา ถิ่นกำเนิดของบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าชื่อดังอย่าง เทสล่า (Tesla) ซึ่งแน่นอนว่า นีโอจะเข้ามาเป็นคู่แข่ง ก่อนจะขยายธุรกิจสู่ยุโรปต่อไป
ผู้บริหารของนีโอ เปิดเผยว่า
การเข้ามาจำหน่ายหุ้นต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก (IPO) ในตลาดสหรัฐฯ ไม่ใช่เรื่องง่าย ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากสงครามการค้าที่ยังไม่มีวี่แววจะยุติระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน
ซึ่งหลังจากนำหุ้นเข้าตลาดเป็นวันแรก ราคาหุ้นของนีโอได้ขยับสูงขึ้นเล็กน้อย
ทั้งนี้ ปัจจุบัน จีนเป็นตลาดยานยนต์ไฟฟ้าขนาดใหญ่อันดับ 1 ของโลก มีสัดส่วนราว 60% ของทั้งหมด และมีอัตราการเติบโตในปีนี้ที่ 80% แม้ว่าตลาดยานยนต์ในภาพรวมปีนี้จะชะลอตัวลงก็ตาม
สำหรับจุดแข็งของนีโอที่เข้ามากระตุกหนวดเทสล่าถึงถิ่นนั้น คือ ความเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมี่ยม ผู้บริหารของนีโอ เปิดเผยว่า รถยนต์ไฟฟ้า 100% หรือ รถอีวี (electric vehicle) ระดับพรีเมี่ยมในประเทศจีน ก็มีอยู่เพียง 2 แบรนด์ คือ เทสล่ากับนีโอนั่นเอง แต่หากจะเทียบราคากันแล้ว รถยนต์ไฟฟ้าระดับหรูของนีโอถือว่าถูกกว่ากันมาก ยกตัวอย่าง รถเอนกประสงค์ (เอสยูวี) 7 ที่นั่งของนีโอ ซึ่งมีสมรรถนะระดับท็อป แต่ราคาถูกกว่าเทสล่ารุ่นโมเดลเอ็กซ์ราวครึ่งหนึ่ง
นอกจากนี้ นีโอกำลังพัฒนารถอีวีรุ่นที่จะมาเป็นคู่แข่งกับเทสล่าโมเดล 3 แต่สามารถทำราคาจำหน่ายได้ต่ำกว่า คือ มีราคาเพียง 2 ใน 3 ของเทสล่ารุ่นดังกล่าว
