Print this page

การกำหนดสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ที่ไม่เกินร้อยละ 60

นางจินดารัตน์ วิริยะทวีกุล ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ชี้แจงประเด็นการกำหนดสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ที่ไม่เกินร้อยละ 60 

สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะขอชี้แจงว่าการกำหนดสัดส่วนหนี้สาธารณะดังกล่าวของไทยในปัจจุบันสอดคล้องกับการกำหนดเพดานหนี้สาธารณะต่อ GDP ในระดับสากล ไม่ว่าจะเป็นของสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะต่างประเทศ องค์กรระหว่างประเทศและสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ สัดส่วนนี้เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่กระทรวงการคลังใช้ในการบริหารหนี้สาธารณะตลอดมา โดยได้มีการทบทวนสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ตามพื้นฐานทางเศรษฐกิจและนโยบายการบริหารประเทศของรัฐบาล

ทั้งนี้ ปัจจุบันรัฐบาลยังจำเป็นต้องดำเนินนโยบายการคลังแบบขยายตัวเพื่อรองรับการลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐานด้านเศรษฐกิจและสังคม และเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ รวมทั้งเป็นการเพิ่มความยืดหยุ่นและพื้นที่ทางการคลังกรณีเกิดวิกฤติเศรษฐกิจหรือความผันผวนในระบบเศรษฐกิจโลก ทั้งนี้ จากการประมาณการในระยะ 5 ปีข้างหน้า พบว่า ระดับหนี้สาธารณะต่อ GDP ก็ยังคงอยู่ภายใต้เพดานร้อยละ 60

โดยที่พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 มีผลบังคับและได้มีการกำหนดสัดส่วนทางการเงินต่างๆ เพื่อใช้เป็นกรอบในการบริหารหนี้สาธารณะ โดยสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ได้ถูกกำหนดไว้อย่างชัดเจน

ซึ่งแตกต่างจากเดิมที่กำหนดเป็นเพียงกรอบความยั่งยืนทางการคลังเพื่อเป็นแนวปฏิบัติเท่านั้น และยังมีการกำหนดสัดส่วนทางการเงินอื่นๆ อีกเพื่อรักษาวินัยทางการคลัง ได้แก่ สัดส่วนภาระหนี้ของรัฐบาลต่อประมาณการรายได้ประจำปีงบประมาณ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดความสามารถในการชำระหนี้ (Debt Affordability) และสัดส่วนหนี้สาธารณะที่เป็นเงินตราต่างประเทศต่อหนี้สาธารณะทั้งหมด รวมทั้งกระทรวงการคลังได้เพิ่มเติมการวิเคราะห์สัดส่วนภาระดอกเบี้ยของรัฐบาลต่อประมาณการรายได้ประจำปีงบประมาณ (Interest payment/Revenue) ซึ่งเป็น อีกตัวชี้วัดที่ธนาคารโลกได้แนะนำและใช้อย่างแพร่หลายในต่างประเทศเพื่อให้มั่นใจว่ารัฐบาลมีความสามารถ ในการชำระหนี้ทั้งในปัจจุบันและระยะปานกลางอีกด้วย 

นอกจากนี้ เพื่อส่งเสริมการมีวินัยทางการคลังให้มีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น คณะกรรมการนโยบายการเงิน การคลังของรัฐได้มีประกาศเพื่อกำหนดสัดส่วนงบประมาณเพื่อการชำระหนี้ภาครัฐ (เงินต้น) ไว้ที่ร้อยละ 2.5 – 3.5 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การบริหารหนี้สาธารณะของไทยที่ได้มีการกำหนดสัดส่วนดังกล่าวไว้ในกฎหมาย เพื่อรักษาวินัยการเงินการคลังและสร้างความยั่งยืนทางการคลังในระยะปานกลางและระยะยาว 

ด้วยเหตุผลข้างต้นนี้ ระดับเพดานหนี้สาธารณะต่อ GDP ที่ร้อยละ 60 เป็นระดับที่เอื้อต่อการเติบโต ทางเศรษฐกิจของประเทศ รักษาวินัยทางการคลังและสามารถรองรับปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ได้ รวมทั้งกรอบการบริหาร หนี้สาธารณะต่างๆ ที่ได้กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 จะช่วยให้การบริหาร หนี้สาธารณะเป็นไปด้วยความรอบคอบ คำนึงถึงความคุ้มค่า ความสามารถในการชำระหนี้ และเสถียรภาพ ทางเศรษฐกิจ ซึ่งจะส่งผลให้ประเทศไทยเกิดความยั่งยืนทางการคลัง (Fiscal Sustainability) ในระยะยาว

Rate this item
(0 votes)
Last modified on Monday, 14 January 2019 06:29
ศุทธดา ศิริกรโสภณ

Author : เกาะติดข่าวการเงิน ธนาคาร หลักทรัพย์ การลงทุน ตราสารหนี้ กองทุน สกุลเงินตราต่างประเทศ ทองคำ การเกร็งกำไร ความเสี่ยงด้านการลงทุน ดอกเบี้ย และข่าวอื่นที่เกี่ยวข้องกับตลาดเงินและตลาดทุน

Latest from ศุทธดา ศิริกรโสภณ

Related items

X

ลิขสิทธิ์ของ IM

ห้ามผู้ใดทำซ้ำ คัดลอก ลอกเลียน ดัดแปลง ปลอมแปลง จัดเผยแพร่ เรียกดึงข้อมูล บันทึก ส่งผ่าน หรือกระทำการใดๆ ที่ละเมิดสิทธิและทรัพย์สินทางปัญญาของ IM